ในแถลงการณ์ต่อที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการลดกำลังรบ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ นายบัน คี มูน กระตุ้นให้ประเทศสมาชิก 65 ประเทศเริ่มการเจรจาข้อตกลงเรื่องการต่อต้านการผลิตและสะสมอาวุธนิวเคลียร์ นับเป็นเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติคนแรกที่ออกมากล่าวในงานเปิดการประชุมประจำปีสหประชาชาติว่าด้วยการลดกำลังรบ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ นายบัน คี มูน กล่าวกระตุ้นประเทศสมาชิกการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการลดกำลังรบ 65 ประเทศที่นครเจนีวา ให้ตื่นตัวและเอาจริงเองจังกับการควบคุมอาวุธนิว เคลียร์ที่เวลานี้กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลก ผู้นำสหประชาชาติกล่าวว่า เป็นสิ่งสำคัญที่ประเทศสมาชิก 65 ประเทศจะต้องให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อรักษาความสงบสุขและความปลอดภัยของประชาคมโลก และว่าควรมีความก้าวหน้าในการเจรจาลดอาวุธเพื่อยับยั้งประเทศต่างๆ ไม่ให้แข่งขันกันสะสมอาวุธร้ายแรง
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติชี้แจงว่าการยับยั้งการแข่งขันกันสะสมอาวุธจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างประเทศ และเพื่อลดความขัดแย้งดังกล่าว สหประชาชาติจึงเสนอให้มีการถ่ายโอนทรัพยากรที่ต้องนำไปใช้ด้านการสะสมอาวุธ ให้ไปใช้เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายในการพัฒนาแห่งสหัสวรรษแทน จุดมุ่งหมายในการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติที่ว่านี้คือการลดปัญหาความยากจนลงครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ. 2558 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการลดกำลังรบนั้นคือการประชุมเจรจาลดอาวุธระหว่างประเทศสมาชิกหลายประเทศ ซึ่งผลการประชุมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ความแตกต่างระหว่างประเทศสมาชิกสำคัญๆ ได้แก่ สหรัฐ รัสเซีย จีน และประเทศอื่นๆ ทำให้การเจรจาต่อรองข้อตกลงเรื่องการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ไม่มีความคืบหน้า ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ประเทศต่างๆยุติการผลิตพลูโตเนียมและห้ามเสริมคุณภาพแร่ยูเรเนียมที่ใช้ในการผลิตระเบิดนิว เคลียร์บางประเทศปฏิเสธว่าจะไม่เจรจาเรื่องการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์หากไม่มีการหยิบยกประ เด็นอื่นๆมาเจรจาควบคู่ไปด้วย อย่างไรก็ตาม เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติแนะนำว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้จุดมุ่งหมายในการลดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น