การศึกษาวิจัยเรื่องความดันโลหิตสูงในหมู่เด็ก

การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่า มีเด็กอเมริกันจำนวนมาก ที่เป็นโรค ความดันโลหิตสูง แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และผลการศึกษาทำให้ถกอภิปรายกันทั่วโลกว่า การเป็็นโรคความดัน โลหิตสูงในหมู่ เด็กนี้ มีแพร่หลายในประเทศอื่นๆ ด้วยหรือไม่

รายงานการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน ใช้ข้อมูลทางการแพทย์ ของเด็กและ วัยรุ่นอย่างน้อย 14,000 คน ที่อยู่ตามเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐโอไฮโอ และสรุปว่าเด็กๆ ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น มีเพียง 1 ใน 4 คนที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง

นักวิจัยใช้ข้อมูลสถิติที่พวกเขารวบรวมมา ในการคาดคะเนจำนวนของเด็กทั่วสหรัฐ ที่ไม่ได้ รับการวินิจฉัย

แพทย์กล่าวว่า การเป็นโรคอ้วนและการนิยม รับประทานอาหารแบบชาติตะวันตก คืออาหาร ที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลสูง ตลอดจนการขาดการออกกำลังกาย ล้วนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เป็น โรคความดันโลหิตสูงกันมากขึ้น นอกจากนี้กรรมพันธุ์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง กล่าวคือ หากพ่อแม่เป็นโรค ความดันโลหิตสูง ลูกก็อาจจะเป็นด้วยเช่นกัน

การศึกษานี้พบว่า แพทย์มักจะตีความสถิติตัวเลขต่างๆ ไม่ถูก และไม่ใส่ใจในเรื่องน้ำหนัก ส่วนสูง เพศ และอายุ ในขณะที่วัดความดันเลือดให้ผู้ป่วย

นายแพทย์เดวิด เคลเบอร์ แห่งโรงพยาบาลเด็กในนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเส็ท ซึ่งเป็นผู้ร่วมทำการศึกษานี้กล่าวว่า แพทย์ควรจะตื่นตัวในเรื่องนี้ให้มากขึ้น

นายแพทย์เดวิด เคลเบอร์กล่าวว่า กุมารแพทย์ควรมุ่งให้ความสนใจอย่างจริงจังต่อ ความดันเลือดที่วัดได้ให้มากขึ้น และตรวจสอบว่าอยู่ในระดับที่ปกติ หรือผิดปกติ

รายงานฉบับหนึ่งจากอินเดียระบุว่า การศึกษาเรื่องความดันโลหิตสูงในสหรัฐ ยืนยันการค้นพบ คล้ายๆ กันนี้ในเดลี และบอมเบย์ แพทย์ชาวอินเดียผู้หนึ่งเห็นพ้องกับเพื่อนร่วมงานชาว อเมริกัน ของเขา ว่าถ้าหากไม่รีบควบคุมอาการความดันโลหิตสูงให้ได้ตั้งแต่ในเยาว์วัย ก็อาจจะส่งผลเสียมากขึ้นเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่

นายแพทย์จากโรงพยาบาลเด็กในนครบอสตันผู้นี้กล่าวว่า หวังว่าการศึกษานี้จะช่วยเป็นสัญญาณ เตือนภัยให้แก่ทั้งผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ผู้ปกครอง และผู้ป่วย