พระสงฆ์หลายร้อยรูปในเมืองต่างๆของพม่า เดินขบวนประท้วงรัฐบาลทหารเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ หลังจากเมื่อวานนี้กองกำลังพม่าใช้แก๊สน้ำตายิงใส่รวมทั้งยิงปืนขู่เพื่อสลายกลุ่มพระสงฆ์ที่ร่วมเดินขบวนในเมือง Sittwe ทางตะวันตกของพม่า
วันนี้ในกรุงย่างกุ้ง พระสงฆ์ชาวพม่าหลายร้อยรูปร่วมเดินขบวนอย่างสงบมุ่งหน้าสู่มหาเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในพม่า ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่าพระสงฆ์เหล่านั้นไม่ได้เข้าไปในองค์เจดีย์ เนื่องจากจนท.พม่าใส่กุญแจล็อคเอาไว้ไม่ให้ผู้ใดเข้าไปภายใน
รายงานข่าวบอกว่าเหล่าพระสงฆ์ต่างโกรธเคืองที่รัฐบาลไม่กล่าวคำขอโทษในเหตุการณ์เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วที่ทหารพม่าทุบตีพระหลายรูปที่เข้าร่วมประท้วงมาตรการขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลพม่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลพม่ามีคำสั่งไม่ให้พระสงฆ์เข้าร่วมในการประท้วงดังกล่าวที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาน้ำมันจนก่อให้เกิดความขุ่นเคืองขึ้นทั่วประเทศพม่า ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยากจนและมีรายได้ต่อหัวต่ำกว่า 200 ดอลล่าร์หรือไม่ถึง 7,000 บาทต่อปี
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเวลานี้รัฐบาลทหารพม่าควรตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น เนื่องจากการประท้วงของเหล่าพระสงฆ์กำลังขยายออกไปทั่วประเทศ ในพม่านั้น พระสงฆ์ถือเป็นชนชั้นที่ควรให้ความเคารพนับถือมากที่สุดในสังคม และคำประกาศของพระสงฆ์ที่บอกว่าจะไม่รับทานจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้นำทหารนั้น อาจสร้างความอัปยศและสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลพม่าได้
คุณ Aung Naing Oo นักวิเคราะห์การเมืองชาวพม่าที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยบอกว่า หากพระสงฆ์ตัดสิทธิทางศาสนาของเหล่าผู้นำทหารและครอบครัว จะส่งผลกระทบมหาศาล ทั้งจะถูกครอบครัวต่อว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะไม่พอใจ ดังนั้น ผู้นำทหารพม่าควรใส่ใจกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้นำทางศาสนาให้ดีดี และควรระมัดระวังในการใช้มาตรการจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง เพราะหากตัดสินใจผิดพลาด การประท้วงอาจลุกลามใหญ่โตกว่าเดิมนอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังเตือนว่าการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามพระสงฆ์ที่ร่วมประท้วง อาจทำให้ทหารเหล่านั้นซึ่งก็เป็นชาวพุทธเช่นกัน รู้สึกกระอักกระอ่วนใจว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นบาป
คุณ Myint Wai นักรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยชาวพม่าที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยอีกผู้หนึ่งบอกว่า ในศาสนาพุทธ การทำร้ายพระสงฆ์ซึ่งก็คือผู้เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น เป็นการกระทำที่ผิดบาปอย่างใหญ่หลวง ผู้ที่กระทำการเช่นนั้นจะต้องตกนรกและถูกลงโทษไปจนถึงชาติหน้า
ก่อนหน้านี้ เคยเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในพม่าเมื่อ ปี ค.ศ 1988 หรือเกือบ 20 ปีมาแล้ว เวลานั้นรัฐบาลทหารพม่านำรถถังและอาวุธปืนมาใช้ปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยจนฝ่ายประท้วงเสียชีวิตไปประมาณ 3 พันคน ซึ่งขณะนั้นพระสงฆ์ก็มีบทบาทสำคัญต่อการประท้วงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันซึ่งรัฐบาลใช้กำลังทำร้ายพระสงฆ์นั้น นักวิเคราะห์ระบุว่าอาจเป็นชนวนให้ประชาชนพม่าทั้งประเทศโกรธแค้นและลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลจนเกินการควบคุมได้