ในปีที่ผ่านมา มีคนติดเชื้อไวรัสเอชไอวีทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคน นักวิทยาศาสตร์ทราบกันมานานกว่า 20 ปีแล้วว่าเชื้อไวรัสเอชไอวี เป็นสาเหตุของโลกเอดส์ และพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ แต่ยังหาทางกำจัดอย่างเด็ดขาดไม่ได้
เป็นเวลาเกือบ 20 ปีที่นักวิทยาศาสตร์ มุ่งการวิจัยเกี่ยวกับวัคซีน ต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี ที่ Anti-Bodies ตัวต้านสิ่งแปลกปลอมที่ต่อสู้กับการติดเชื้อในระบบภูมิต้านทานของคนเรา โดยที่ไม่มีความก้าวหน้ามากนัก
มาตอนนี้ ผู้จัดการประชุมที่ Seattle รัฐวอชิงตัน อยากจะให้นักวิจัยเริ่มคิดให้ต่างไปจากเดิม ในการหาวิธีต่อต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี เพียง 5 ปีที่ผ่านมานี้เองที่นักวิจัยบางคนหันเหความสนใจไปที่เซลสังหารชนิดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า T-Cells ที่จะโจมตีเชื้อไวรัสเอชไอวี แทนที่จะพยายามป้องกันการติดเชื้อ ประธานร่วมของการประชุมที่ Seattle กล่าวว่านักวิทยาศาสตร์เสียเปรียบตรงที่ขาดตัวต่อต้านเอชไอวีโดยธรรมชาติมาเป็นแบบในการศึกษาวิจัย
นายแพทย์โฮเซ่ เอสปาริซ่า ประธานร่วมของการประชุมกล่าวว่า ธรรมชาติไม่ได้สร้างการตอบสนองในเชิงป้องกันของระบบภูมิต้านทานไว้อย่างโรคหัด หรือฝีดาษ หรือโรคอื่นๆ ที่เรามีวัคซีนป้องกัน แต่คุณหมอเห็นว่ามีช่องทางที่จะมองการณ์ในแง่ดี เพราะมนุษย์เรามีประวัติอยู่ว่าสามารถเอาชนะธรรมชาติได้ เขากล่าวต่อไปว่านักวิจัยเชื่อว่า หากสามารถจัดการให้ร่างกายสร้างการตอบสนองของระบบภูมิต้านทานขึ้นมาก่อนการติดเชื้อ ก็จะสามารถป้องกันการติดต่อของเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ แต่เขาเตือนว่าการที่จะได้วัคซีนแบบนี้ออกมาอาจใช้เวลาอีกหลายปี
นักวิทยาศาสตร์ส่วนมากยอมรับแนวคิดที่ว่า เราไม่อาจคาดหวังที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี โดยการควบคุมพฤติกรรมของคน แต่ก็เตือนให้ระมัดระวัง และไม่ทำพฤติกรรมเสี่ยง อย่างการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน การเสพยาเสพติดเเบบเข้าเส้น และการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีโดยการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ เป็นต้น
แพทย์หญิง Glenda Gray ผู้ร่วมก่อตั้งหน่วยงานวิจัยเอชไอวีก่อนคลอด ที่เมืองโซเวโต้ อัฟริกาใต้ ซึ่งโรคเอดส์แพร่ระบาดมาก กล่าวว่าการที่แม่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะถ่ายทอดเชื้อให้แก่ลูกด้วยการให้น้ำนมนั้น มีโอกาสสูงมาก แต่ในพื้นที่ยากจนผู้เป็นแม่มักไม่มีทางเลือก
แพทยย์หญิง Glenda Gray กล่าวว่าในการทำงานต่อต้านเอชไอวี เอดส์นั้น จะต้องหาทางเลือกให้แก่ผู้หญิงยากจน อย่างในอัฟริกา ซึ่งด้วยความยากไร้ ไม่มีอาหารอื่นให้ลูก ผู้เป็นแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี จะทราบว่าการให้นมลูกจะเท่ากับการถ่ายทอดเชื้อให้แก่ลูก แต่ก็ต้องทำ เพราะไม่ฉะนั้นก็เท่ากับปล่อยให้ลูกอดตาย และว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวัคซีนมาต่อต้านการติดเชื้อเอชไอวี ตัวเธอเองเป็นนักวิจัยที่กำลังทดลองวัคซีนอยู่ในอัฟริกาใต้
นักวิจัยจำนวนมากกำลังฝากความหวังไว้กับโครงการทดลองวัคซีนโครงการใหญ่ที่สุดในโลก นักวิจัยทำงานร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ ที่กำลังทดลองวัคซีน 17 ชนิดใน 5 ทวีป