บริษัทการพนันชั้นนำของอเมริกาหลายต่อหลายบริษัทต่างมีแผนทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านเหรียญเพื่อแปรสภาพมาเก๊าให้กลายเป็นลาสเวกัสแห่งเอเชีย ในขณะที่ยังมีผู้คนอีกมากมายในเกาะเล็กๆ แห่งนี้ที่อาจได้รับผลกระทบในทางลบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ตั้งแต่รัฐบาลยกเลิกการผูกขาดบ่อนการพนันในมาเก๊าเมื่อปี คศ.2004 บริษัทการพนันยักษ์ใหญ่จาก สหรัฐก็นำเงินมหาศาลหลายพันล้านดอลล่าร์เข้ามาลงทุนในเกาะเล็กๆที่มีประชากรไม่ถึง 5 แสนคน แห่งนี้อย่างต่อเนื่องไล่ตั้ง แต่บริษัท Las Vegas Sands ที่ก่อสร้างบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในปี คศ.2004 และในปีหน้าบริษัทอเมริกันแห่งนี้มีแผนจะเปิด The Venetian Macau ซึ่งจำลองมา จากบ่อนคาสิโนชื่อดังที่ลาสเวกัส บ่อนการพนันแห่ง ใหม่นี้มีพื้นที่ราว100,000 ตารางเมตร ประกอบ ด้วยโรงแรมขนาด 3,000 ห้องและส่วนที่เป็นคาสิโน ร้านค้าและห้องประชุม มาร์ค บราวน์ ประธาน บริษัท Sands Macau บอกว่า คาสิโน The Venetian นี้จะดึงดูดนักพนัน รวมทั้งนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และคนที่ชอบจับจ่ายซื้อสินค้าให้เดินทางมาที่มาเก๊าอย่าง มากมาย
คุณมาร์ค บราวน์ เปิดเผยว่า ที่มาเก๊านี้จะมีทุกอย่างเหมือนที่ลาส เวกัส ตั้งแต่การแสดงต่างๆ ความบันเทิง ตลอดจนร้านอาหารและแหล่งซื้อสินค้า ที่มากมายที่สุดในโลกรวมกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะทำให้ มาเก๊ายิ่งใหญ่กว่าลาส เวกัส
นอกจากบริษัทแซนด์แล้ว คู่แข่งสำคัญๆอย่าง Wynn และ MGM Mirage ก็เตรียมทุ่มเม็ดเงินก็เตรียม เปิดคาสิโนขนาดใหญ่มโหฬาร มูลค่า หลายพันล้านดอลล่าร์ในระยะเวลาอันใกล้นี้เช่นกัน ซึ่งก็ทำ ให้นาย Stanley Ho อดีตผู้ครอบครองผูกขาดธุรกิจการพนันในมาเก๊ามาเป็นเวลาหลายสิบปี ต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันด้วยการเปิดบ่อนแห่งใหม่ชื่อ the Grand Lisboa ในช่วงต้นปีหน้า
การแข่งขันครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อแย่งลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ต่างกำลังร่ำรวยจากเศรษฐกิจ ซึ่ง เติบโตอย่างรวดเร็ว ปีที่แล้วมีชาวจีนราว 10 ล้านคนเดิน ทางมายังมาเก๊า โดยมีจุดหมายหลักที่บ่อน คาสิโนนั่นเอง
การหลั่งไหลเข้ามาของเงินลงทุนและนักท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจที่ซบเซาของมาเก๊าเริ่มกระเตื้องขึ้น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของมาเก๊าเติบ โตขึ้นถึง 15% ก่อนหน้านี้ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 นั้น มาเก๊ามีอัตราการ ว่างงานถึง 7 % เนื่องจากโรงงานต่างๆปิดตัวและย้ายไปสร้างใหม่ที่แผ่นดิน ใหญ่
Andrew Pyne เจ้าของสายการบิน Viva Macau บอกว่า ปัจจุบันมาเก๊าคือจุด หมายปลายทางที่ได้รับ ความนิยมสูงสุดในเอเชีย และจะยิ่งมีนักท่องเที่ยวเดิน ทางมามากขึ้นเรื่อยๆ และเศรษฐกิจก็เติบโต อย่างน่าตกใจ แต่ในขณะเดียวกัน ประชาชนหลายคนก็เปิดเผยว่า เกาะมาเก๊าซึ่งก็คือบ้านของ พวก เขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งการจราจรที่คับคั่ง ราคาบ้านและที่ดินสูงขึ้นมากรวมทั้งการหลั่ง ไหลเข้ามาของแรงงานต่างด้าว
Penny Chan นักสังคมวิทยาแห่งสมาคมวิจัยสังคมมาเก๊ากล่าวว่า ไม่ใช่ประชาชนทุกคนที่จะได้รับ ประโยชน์จากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ บางคน ยังคงไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือนสูงๆ และดูเหมือน ว่าคนที่ได้ประโยชน์จริงๆจาก บ่อนคาสิโนคือคนร่ำรวยที่มีจำนวนไม่มากนักเท่านั้น
คุณ Chan อธิบายว่า ปัจจุบันงานที่มีรายได้สูงมักจะจ้างคนต่างชาติและจำนวน คนมาเก๊าที่จบการ ศึกษาระดับสูงก็ลดน้อยลงเนื่องจากนักเรียนพากันหยุดเรียน แล้วเข้าไปทำงานในบ่อน นอกจากนี้ ค่าเช่าบ้านก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน
Ng Kuok Cheong สมาชิกวุฒิสภามาเก๊ากล่าวว่า ประชาชนบางคนโดย เฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้ และไม่สามารถจ่ายค่าเช่าบ้านได้ ต้องนอนตาม ถนนกลายเป็นคนไร้บ้านไป คุณ Ng บอกว่ารัฐบาลจะ แก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วย การ นำรายได้จากบ่อนคาสิโนไปพํฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการ สาธารณะ ต่างๆ เช่น ระบบขนส่งมวลชนและการศึกษา
จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆของจีน กลายเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสซึ่งกลับ คืนเป็นของจีนเมื่อปี คศ.1999 มาถึงปัจจุบัน มาเก๊ากำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยน สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนมาเก๊าเองอาจจะต้องพนัน อนาคตของตนว่าจะออกหัวหรือออกก้อยต่อไป