แมดดิสัน เจตน์ แคสทีน (Madison Jade Casteen) สร้างความคึกคักให้กับวงการฟุตบอลหญิงไทย หลังจากที่ได้ฝากฝีเท้าในการแข่งขันรอบคัดเลือก ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปีที่ผ่านมา และในเดือนนี้ ลูกครึ่งไทยอเมริกันวัย 16 ปี กำลังเตรียมเข้าค่ายเก็บตัว เพื่อช่วยทีมชบาแก้วชุดเล็กในรอบชิงชนะเลิศที่ประเทศอินโดนีเซีย ติดตามเส้นทางของแมดดิสัน จากรายงานพิเศษของผู้สื่อข่าววีโอเอไทย วรางคณา ชมชื่น
แมดดิสัน แคสทีน เป็นนักเตะที่โค้ชฟุตบอลยกให้เป็นกองหน้าที่มีไหวพริบ ลีลาการรุก และการทำประตูที่แพรวพราว
ไม่ว่าจะเป็นในการแข่งฟุตบอลระดับโรงเรียนมัธยมศึกษา ระดับสโมสรเยาวชนหญิงชั้นนำของสหรัฐฯ อย่าง ECNL (Elite Clubs National League) หรือในศึกชิงแชมป์เอเชียฟุตบอลหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (AFC U-17 Women's Asian Cup) ที่เธอลงเล่นให้ทีมชาติไทย และยิงไป 4 ประตู
“มันเหลือเชื่อค่ะ เมย์ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ติดทีมชาติ โดยเฉพาะทีมชาติไทย และสามารถยิงประตูได้ในการลงเล่นให้ทีมชาติครั้งแรก” แมดดิสัน หรือ “น้องเมย์” ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับวีโอเอไทย
Your browser doesn’t support HTML5
ตั้งแต่ฝากฝีมือไว้ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือกในปีที่ผ่านมา ชื่อของแมดดิสันได้รับการพูดถึงในสื่อต่าง ๆ พร้อมกับจำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในสนามและในโลกออนไลน์
“รู้สึกท่วมท้นตื้นตันมากค่ะกับการสนับสนุนที่ได้รับ และทำให้เมย์อยากจะเล่นให้ประเทศไทยต่อไปอีกในอนาคต เพราะเมย์รักประเทศไทย และก็อยากจะทำให้ดีที่สุดเพื่อประเทศไทย” นักเตะสาวเบอร์ 19 ของไทยกล่าว
ในเดือนนี้แมดดิสันได้ตีตั๋วจากสหรัฐฯ เดินทางมาไทยอีกครั้ง เพื่อเข้าค่ายเก็บตัวในการคัดเลือกนักฟุตบอลหญิงทีมชบาแก้วรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนพฤษภาคมนี้
สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกันวัย 16 ปี เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ ความหลงใหลฟุตบอลเริ่มจากการที่แมดิสันไปดูพี่ชายไล่เตะลูกกลม ๆ ก่อนที่จะติดใจ และขอให้พ่อแม่พาเธอไปหัดเล่นอย่างจริงจัง
“เมย์ชอบซ้อมฟุตบอล ชอบเล่นชอบแข่งมากค่ะ ตั้งแต่ยังเด็กแล้วเมย์ก็คิดมาตลอดว่าอยากจะเล่นฟุตบอลอาชีพ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เมย์อยากจะทำ”
ถึงแม้จะเกิดและเติบโตที่สหรัฐฯ แต่เส้นทางฟุตบอลของแมดดิสัน แคสทีน ผูกพันกับเมืองไทยเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่เดินทางมาประเทศไทย เธอจะขอให้คุณแม่พาไปเรียนรู้ทักษะฟุตบอลเพิ่มเติมจากโค้ชชาวไทย และได้ฝึกซ้อมกับกลุ่มเด็กผู้ชายล้วนทุกครั้ง
น้องเมย์กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนเวสลีย์แอน คริสเตียน อคาเดมี (Wesleyan Christian Academy) ในเมืองไฮพอยท์ (High Point) รัฐนอร์ธแคโรไลนา นอกจากจะเรียนดีได้เกรด 4.00 เธอยังฝึกซ้อมอย่างหนัก เป็นกองหน้าตัวฉกาจของทีม NC Fusion สโมสรฟุตบอลหญิงแนวหน้าของรัฐ โดยเธอใฝ่ฝันที่จะเล่นในระดับมืออาชีพ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในลีคฟุตบอลชั้นนำของโลก
“บทเรียนสำคัญที่สุดที่เมย์ได้จากการเล่นฟุตบอลมาหลายปี คือเราไม่ควรรู้สึกพึงพอใจหรืออยู่ตัวกับอะไรง่าย ๆ เพราะนั่นจะทำให้เริ่มเนือยและทำให้สบายมากเกินไป แต่เมื่อเมย์ผลักดันตัวเองให้ไปอยู่นอกคอมฟอร์ตโซน (comfort zone) มันก็จะทำให้เมย์ต้องฝึกซ้อมให้หนักมากขึ้น”
ปัจจุบัน มีนักฟุตบอลหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ เพียงไม่กี่คน ที่ได้เล่นในระดับ National Women’s Soccer League (NWSL) ลีกฟุตบอลหญิงสูงสุดในสหรัฐฯ หรือติดทีมชาติฟุตบอลหญิงสหรัฐฯ แต่แมดดิสันไม่ได้มองว่านั่นเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
“เมย์ไม่ได้มองว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น เมย์คิดว่าถ้าเราฝึกฝนและซ้อมอย่างหนัก เราก็เหมือนคนอื่น ๆ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราซ้อมมากน้อยแค่ไหน เล่นได้ดีแค่ไหน และเราฝากผลงานอะไรไว้ในสนามการแข่งขันบ้าง”
โค้ชของแมดดิสันคาดว่า ในฤดูร้อนของอเมริกาที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ จะเสนอทุนการศึกษาและที่เรียนให้นักฟุตบอลระดับมัธยม แมดิสันจะได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจจากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ
ส่วนในศึกชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่จะมีขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซียเดือนพฤษภาคมนี้ ทีมชาติไทยถูกจับให้อยู่ในกลุ่มบี ต้องลงฟาดแข้งกับแชมป์เก่าอย่างญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย
“น่าจะเป็นเกมที่หนักค่ะ แต่เราก็ต้องมีกำลังใจที่ดีในการที่จะลงแข่งขันกับทีมเหล่านี้ เราจะต้องซ้อมให้หนักกว่าเขา และต้องการชัยชนะมากกว่าเขา เราจะต้องไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ค่ะ” แมดดิสันกล่าวส่งท้าย