สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ประเมินว่า จนถึงขณะนี้มีพลเมืองในยูเครนถูกสังหารแล้วมากกว่า 10,000 คน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว โดยประมาณครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตมักเกิดขึ้นห่างจากแนวหน้าในสมรภูมิ
สำนักงานสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระจายอยู่ในยูเครนหลายสิบคน ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงนั้นสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานไว้มาก
ตัวอย่างคือการสู้รบที่สมรภูมิเมืองมาริอูโพลในช่วงเริ่มต้นของสงคราม ที่ประชาชนในเมืองนั้นต่างบอกว่ามีพลเมืองถูกสังหารเป็นจำนวนมาก รวมทั้งในอีกหลายเมือง
แดเนียลเล เบลล์ หัวหน้าคณะตรวจสอบของยูเอ็น กล่าวว่า "ตัวเลข 10,000 คน ถือเป็นหลักไมล์อันน่าเศร้าสลดสำหรับยูเครน" และว่า "สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนซึ่งกำลังเข้าสู่เดือนที่ 21 กำลังเสี่ยงที่จะกลายเป็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนาน รวมทั้งมีต้นทุนด้านมนุษย์ที่รุนแรงจนยากจะประเมินได้"
รายงานของยูเอ็น ระบุว่า พลเมืองที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากแรงระเบิดและอาวุธที่ทรงอานุภาพในวงกว้าง เช่น ลูกปืนใหญ่ ขีปนาวุธ และระเบิดลูกปราย เป็นต้น
รายงานบอกด้วยว่า ราวครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตในช่วงสามเดือนแรกของสงคราม เกิดขึ้นไกลออกไปจากแนวหน้า ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการโจมตีระยะไกลของกองทัพรัสเซีย รวมถึงการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล และการทิ้งระเบิดใส่อาคารที่พักอาศัยต่าง ๆ
- ที่มา: รอยเตอร์