การก่อกบฏโดย เยฟเกนี พรีโกชิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง แวกเนอร์กรุ๊ป (Wagner Group) ที่สร้างความแตกตื่นให้รัสเซีย ด้วยการนำทหารเดินขบวนไปยังกรุงมอสโก ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลกรุงเครมลิม เลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุบานปลายในวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่พร้อมจะลงโทษคนที่กล้าท้าทายอำนาจของตนอย่างไม่ปราณี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่าการก่อกบฏแบบสายฟ้าแลบของพรีโกชิน ทำให้มีการตั้งคำถามถึงความสามารถของ ปธน.ปูติน ในการทำสงครามในยูเครน และอาจเป็นการเปิดช่องให้ผู้ที่ไม่พอใจปูติน ลุกขึ้นมาท้าทายการยึดครองอำนาจตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาของเขา
มีรายงานว่า หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเบลารุสได้เข้ามาทำหน้าที่เจรจาลดความตึงเครียดระหว่างพริโกชินและปูติน พริโกชินจะเดินทางไปยังเบลารุส โดยหัวหน้ากองกำลังแวกเนอร์กรุ๊ปและกองกำลังของเขาจะไม่ต้องรับโทษคดีความทางอาญาแต่อย่างใด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซียเมื่อสุดสัปดาห์ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ “ไม่ธรรมดา” โดยกล่าวว่าเมื่อ 16 เดือนก่อน ปธน.ปูติน ทำท่าจะยึดเมืองหลวงของยูเครน แต่ในวันนี้กลับต้องมาป้องกันเมืองหลวงของรัสเซียจากกองกำลังที่นำโดยอดีคนสนิทของตน
บลิงเคนกล่าวกับรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีว่า “ผมคิดว่าเราได้เห็นรอยร้าวที่เพิ่มมากขึ้นของรัสเซีย” และกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่ารอยร้าวเหล่านี้จะนำไปสู่อะไร แต่แน่นอนว่าปูตินมีคำถามที่ต้องตอบอีกมากมายในอนาคตข้างหน้า
ยังไม่มีความชัดเจนว่าการก่อกบฎ 24 ชั่วโมงของพรีโกชินจะส่งผลอย่างไรต่อสงครามในยูเครน แต่ที่แน่ๆ การก่อการดังกล่าวทำให้มีการดึงนักรบสองกลุ่มออกจากยูเครน คือทหารรับจ้างแวกเนอร์ และนักรบเชเชนที่ถูกส่งไปสกัดกลุ่มแวกเนอร์
อย่างไรก็ตามชาวยูเครนมีความหวัง เช่นเดียวกับที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การสู้กันเองของรัสเซียจะเป็นโอกาสของทหารยูเครนที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสู้กลับเพื่อแย่งชิงพื้นที่บางส่วนที่ทหารรัสเซียเคยยึดครองเอาไว้
อีกด้านหนึ่ง ทำให้มีการตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มแวกเนอร์ ที่พรีโกชินเป็นเจ้าของ ซึ่งกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ได้ถูกส่งไปหลายประเทศเพื่อต่อสู้และรักษาผลประโยชน์ของรัสเซีย
ภายใต้ข้อตกลงเมื่อสุดสัปดาห์ ที่ยุติไม่ให้พรีโกชินเคลื่อนพลไปถึงกรุงมอสโกได้สำเร็จ กองกำลังแวกเนอร์ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกบฏครั้งนี้จะได้รับข้อเสนอให้ทำสัญญาโดยตรงกับกองทัพรัสเซีย และทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกองทัพ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สร้างความไม่พอใจให้กับพรีโกชิน
ฟิลลิปส์ โอ’ไบรอัน ศาสตราจารย์ด้านยุทธศาสตร์ศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ในสก็อตแลนด์ กล่าวว่า ข้อตกลงระหว่างพรีโกชินและปูตินนั้น ดูเป็นการจัดการ “อย่างเร่งรีบ” เพื่อที่จะปกป้องพรีโกชิน เงิน และครอบครัวของเขา แต่ไม่มีใครรู้ว่าข้อตกลงนั้นจะช่วยรักษาแวกเนอร์กรุ๊ปไว้ได้หรือไม่ ไม่แน่ชัดว่ามีทหารรับจ้างจำนวนเท่าไหร่ที่เดินทางไปเบลารุสกับพรีโกชิน และมีอีกเท่าไหร่ที่จะต้องถูกบังคับให้ทำสัญญากับกองทัพรัสเซีย
ในวันเสาร์ที่ผ่านมา กองกำลังของพริโกชินได้เคลื่อนพลอย่างรวดเร็วเข้าไปควบคุมฐานทัพทางตอนใต้สองแห่งของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกเพียง 200 กิโลเมตร ก่อนจะมีการถอนกำลังออกไป
กรุงมอสโกได้เตรียมรับมือกับการมาถึงของทหารรับจ้างแวกเนอร์โดยการติดตั้งจุดตรวจพร้อมกับรถหุ้มเกราะและกองกำลังทางตอนใต้ของกรุงมอสโก มีการดึงเอาทหารเชเชนประมาณ 3,000 นายจากสมรภูมิรบในยูเครนมาเพื่อเตรียมรับมือ นอกจากนี้ กองกำลังรัสเซียพร้อมอาวุธยังได้ติดตั้งจุดตรวจในบริเวณชานเมืองตอนใต้ของกรุงมอสโก และมีการขุดบางส่วนของทางหลวงเพื่อชะลอการเคลื่อนที่ของกองกำลังแวกเนอร์อีกด้วย
สำนักข่าวเอพีได้บันทึกภาพวีดีโอในเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน (Rostov-on-Don) ที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนในเมืองส่งเสียงเชียร์กองกำลังของแวกเนอร์กรุ๊ปขณะที่ถอนกำลังออกไป บางคนได้วิ่งเข้าไปจับมือกับพรีโกชิน ที่นั่งอยู่ในรถ SUV ซึ่งภาพเหล่านี้อาจสร้างความกังวลให้ปูติน
ด้านผู้ว่าการภูมิภาค และสำนักข่าวรัสเซียได้รายงานว่า กองกำลังแวกเนอร์ทั้งหมดได้ออกจากภูมิภาคลิเปตสค์ (Lipetsk) ที่อยู่ระหว่างกรุงมอสโกและเมืองรอสตอฟไปแล้ว
ในบ่ายวันอาทิตย์ หลังจากที่กองกำลังแวกเนอร์ได้ถอนตัวออกไปแล้ว สถานการณ์ในกรุงมอสโกกลับมาสู่ความปกติอีกครั้ง มีการนำเอาจุดตรวจออกไป แต่บริเวณจัตุรัสแดงยังห้ามไม่ให้คนเข้า
สถาบัน Institute for the Study of War ของสหรัฐฯ ซึ่งติดตามสงครามยูเครนมาตั้งแต่ต้น ได้เตือนว่า “รัฐบาลกรุงเครมลินกำลังเผชิญกับดุลยภาพที่ไม่มั่นคงอย่างมาก” และยังกล่าวว่า “ข้อตกลงที่เกิดขึ้นเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว”
ก่อนหน้านี้ พรีโกชินได้เรียกร้องให้รัสเซียขับไล่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เซอร์เกย์ ชอยกู ซึ่งพรีโกชินได้วิพากษ์วิจารณ์บทบาทของชอยกูในการทำสงครามของรัสเซียในยูเครนมาตลอด
ข่าวกรองของสหรัฐฯ รายงานว่าพรีโกชินได้สุมกำลังใกล้กับชายแดนรัสเซียมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งขัดกับการกล่าวอ้างของพรีโกชิน ที่บอกว่าการก่อกบฏเป็นการตอบโต้ที่ค่ายทหารของแวกเนอร์กรุ๊ปในยูเครนถูกกองทัพรัสเซียโจมตีในวันศุกร์ท่ีผ่านมา ซึ่งกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เป็นไปได้ว่าแรงจูงใจในการก่อกบฏของพรีโกชินเกิดจากการที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ออกมาประกาศ โดยได้รับความเห็นชอบจาก ปธน.ปูตินว่า ทหารรับจ้างของบริษัทเอกชนจะต้องทำสัญญากับกองทัพรัสเซียภายในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งที่ผ่านมาพรีโกชินได้ปฏิเสธที่จะทำตามมาโดยตลอด
- ที่มา: เอพี