สำนักข่าวรอยเตอร์ออกรายงานเชิงวิเคราะห์ถึงความคิดเห็นของประชาชนจีนเรื่องมาตรการ "โควิดเป็นศูนย์" หลังเกิดการประท้วงในหลายเมืองและเกิดการเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ความปั่นป่วนทางสังคมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของจีนในรอบหลายสิบปี
ชาวเมืองเซี่ยงไฮ้รายหนึ่งที่ชื่อว่าแซมวล เหริน วัน 20 กลาง ๆ ที่ทำงานด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ของทางการ เป็นเรื่อง "น่าขัน" แต่ไค ชีรู่ วัย 70 ปีกล่าวว่า หากไม่มีการควบคุมที่เข้มข้น จำนวนผู้ป่วยจะกลับมาเพิ่มขึ้น
ทัศนะของทั้งสองคนสะท้อนว่า ในสังคมจีน ประชาชนมีความเห็นที่หลากหลายต่อมาตรการควบคุมการระบาดโควิดของสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นเเนวทางที่เข้มงวดที่สุดในโลก
ความเห็นที่หลากหลายนี้ทำให้ทางการเผชิญความยากลำบากในการตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการ "โควิดเป็นศูนย์"
ทางการเริ่มผ่อนปรนมาตรการกักตัวในเมืองใหญ่บ้างเเล้ว สืบเนื่องจากการประท้วงที่เกิดขึ้น จากชนวนเหตุการณ์เหตุไฟไหม้ที่อุรุมชี เมื่อปลายเดือนที่แล้วที่มีคนเสียชีวิตนำมาซึ่งคำถามว่า ที่พนักงานดับเพลิงและเหยื่อไฟไหม้ประสบกับชะตากรรมนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมโควิดหรือไม่
ในสัปดาห์นี้หลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงในเมืองกวางโจวไม่ถึง 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในอย่างน้อย 7 เขตอุตสาหกรรมของจีนที่อยู่ไม่ไกลจากฮ่องกงประกาศยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์
หนึ่งในเขตนั้นยังอนุญาตให้โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ตามปกติ รวมทั้งให้ภัตตาคารและธุรกิจบริการอื่น ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ เปิดทำการได้อีกครั้งแล้ว
นอกจากนี้ การผ่อนคลายมาตรการยังพบใน ชุมชนไม่ไกลจากกรุงปักกิ่ง และที่เมืองฉงชิ่ง รวมถึงเจิ้งโจว
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม ที่มหาวิทยาลัยบราวน์ สถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐฯ ตีพิมพ์การวิจัยจากการสัมภาษณ์ชาวเซี่ยงไฮ้ และวิเคราะห์กระเเสโซเชี่ยลมีเดีย นักวิจัยพบว่า "มาตรการโควิดเป็นศูนย์" ได้รับการสนับสนุนอย่างเเข็งขันจากประชาชนจีน โดย คนยอมที่จะทำตามกฎหลังจากพบตัวอย่างการระบาดในประเทศต่าง ๆ ที่คนจีนเห็นว่าเป็น "ฉากที่สยดสยอง"
ตัวเลขทางการของจีนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 5,200 คน ซึ่งน้อยกว่าประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐฯ ที่โควิดได้คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 1 ล้านคน รวมถึงอังกฤษกับตัวเลขผู้เสียชีวิต 212,000 รายและในบราซิลที่มีคนจบชีวิตลง 690,000 คน จากโรคนี้
นอกจากประชาชนที่มีทัศนะที่เเตกต่างกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนเองก็มีความเห็นเรื่อง "มาตรการโควิดเป็นศูนย์" เป็นสองทางเช่นกัน
จง หนานชาง ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโคโรนาไวรัสและมีส่วนวางแผนการรับมือโควิด-19 ในตอนต้น กล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตของประชาชนจากโควิดสายพันโอมิครอนอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ "ดังนั้นประชาชนไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก"
แต่ จู เจี่ยตง หัวหน้าศูนย์ควบคุมโรคที่มณฑลกวางสีทางตะวันตกเฉียงใต้เขียนบทความในวารสารการเเพทย์ Shanghai Journal of Preventive Medicine ว่าหากผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควินในจีนเเผ่นดินใหญ่เช่นเดียวกับในฮ่องกง ในปีนี้จีนอาจมีผู้ติดเชื้อกว่า 233 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 2 ล้านคน
ยังมีความกังวลอีกสองประการ หากทางการผ่อนคลาย "มาตรการโควิดเป็นศูนย์"
ประการเเรกอัตราการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของจีนยังคงอยู่ในระดับ 67%-68% ต่ำกว่าสหรัฐฯที่อยู่ราว 70% และเยอรมนีที่ 85.9% รวมถึงญี่ปุ่นในระดับ 90%
ประการที่สอง หากมีผู้ป่วยหนักจากโควิด-19 จีนมีเตียง ICU รองรับ เพียง 4.37 เตียงต่อจำนวนประชากร 100,000 คน เทียบกับ กว่า 30 เตียงในกรณีของสหรัฐฯ
- ที่มา: รอยเตอร์