บ็อบ ไอเกอร์ (Bob Iger) ซีอีโอผู้พลิกโฉมหน้าของดิสนีย์ให้กลายเป็นบริษัทบันเทิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก เจอโจทย์ท้าทายในการกลับมารับตำแหน่งซีอีโอเพื่อกอบกู้องค์กร ทั้งการปรับลดต้นทุนและฟื้นฟูกำไรให้บริษัทอีกครั้ง
เมื่อวันอาทิตย์ ดิสนีย์ ประกาศแผนที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ลงทุน ด้วยการปลดบ็อบ ชาเพ็ค และแต่งตั้งบ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอคนใหม่หน้าคุ้นของบริษัทวัย 71 ปี ด้วยสัญญาว่าจ้าง 2 ปี พร้อมเป้าหมายพาดิสนีย์ให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง
การดึงตัวซีอีโอเก่ามากุมบังเหียนองค์กรระดับต้น ๆ ของโลกครั้งนี้ สะท้อนภาพแนวทางการบริหารในอดีตที่สตีฟ จ็อบส์ หวนคืนตำแหน่งซีอีโอแอปเปิล และฮาเวิร์ด ชูลท์ส ที่กลับมาเป็นซีอีโอให้สตาร์คบัคส์หลังจากขึ้นไปเป็นบอร์ดบริหารขององค์กร ในช่วงเวลาวิกฤตของบริษัท
เปาโล เปสคาทอร์ นักวิเคราะห์จาก PP Foresight ให้ทัศนะกับรอยเตอร์ว่า “(การกลับมาของไอเกอร์) คือก้าวที่กล้าหาญซึ่งอาจจะเป็นทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจกำลังอยู่ในเฟสของการเติบโตที่แตกต่างจากในอดีตไปมาก” และว่าแผนการระยะสั้นควรมีการลดบทบาทในบางภาคส่วนขององค์กร
ทั้งนี้ เป้าหมายเร่งด่วนในการขบแก้ของดิสนีย์ คือ ดิสนีย์พลัส (Disney+) ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งที่ไอเกอร์ช่วยผลักดันให้เปิดตัวเมื่อปี 2019 ซึ่งตอนนี้ขาดทุนมากกว่าเท่าตัวในไตรมาสล่าสุด และเป็นธุรกิจที่ดึงผลกำไรของดิสนีย์เนื่องจากต้องผลิตเนื้อหาที่ดึงดูดสมาชิกรายเดือน และผู้ลงทุนไม่ปลาบปลื้มกับผลตอบแทนที่ได้รับมากนัก จนทำให้หุ้นดิสนีย์ร่วง 40% แล้วในปีนี้ เช่นเดียวกับสตรีมมิ่งแนวกีฬา ESPN ที่เป็นอีกเป้าหมายในการลดต้นทุนขนานใหญ่ของดิสนีย์จากการแย่งชิงลิขสิทธิ์กีฬาและยอดสมาชิกที่หดหาย
แต่หลังการประกาศชื่อไอเกอร์กลับมาเป็นซีอีโอดิสนีย์อีกครั้ง หุ้นดิสนีย์ปรับขึ้น 7.5% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ และปิดที่ 97.58 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อปิดการซื้อขายในวันจันทร์ สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนหลังการกลับมาของซีอีโอที่บริหารดิสนีย์มา 15 ปี
- ที่มา: รอยเตอร์