รัสเซียปูพรมถล่มโครงสร้างพลังงานของยูเครนในวันพฤหัสบดี พร้อมกับยกระดับการโจมตีทางภาคตะวันออกของยูเครน โดยส่งกำลังพลที่ถอยร่นมาจากสมรภูมิในเมืองเคอร์ซอน เข้าไปสมทบในแนวรบด้านตะวันออกแทน
เสียงระเบิดดังสนั่นอีกครั้งในหลายเมืองทั่วยูเครน รวมทั้งในกรุงเคียฟ เมืองท่าโอเดซาทางภาคใต้ เมืองดนิโปรในภาคกลาง และในเขตปกครองซาปอริซห์เชีย นอกจากนี้ยังมีรายงานการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภคในเขตปกครองคาร์คิฟและมีโคลาอิฟทางภาคใต้ด้วย
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนกำลังพยายามซ่อมแซมโครงสร้างเครือข่ายไฟฟ้าและพลังงานต่าง ๆ ที่ถูกโจมตีเสียหายมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ เพื่อให้ทันฤดูหนาวที่กำลังมาถึง โดยบริษัทพลังงาน Naftogaz ของทางการยูเครน เปิดเผยว่า โรงงานก๊าซธรรมชาติหลายแห่งในภาคตะวันออกเสียหายอย่างหนัก
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เตือนว่า อาจเกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ในยูเครนในช่วงฤดูหนาวปีนี้ เนื่องจากประชาชนหลายล้านคนอาจไม่มีไฟฟ้าหรือก๊าซธรรมชาติใช้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานการสู้รบครั้งใหญ่ในเขตปกครองดอแนตสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นเขตแดนที่รัสเซียอ้างการผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เช่นเดียวกับเคอร์ซอนและซาปอริซห์เชีย
SEE ALSO: ตรวจสอบข่าว: จริงหรือไม่ ที่รัสเซียใช้ข้ออ้าง 'การยั่วยุโดยโปแลนด์' เบี่ยงเบนกรณีอาชญกรรมสงครามในยูเครนความตึงเครียดในโปแลนด์
องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ และรัฐบาลโปแลนด์ สรุปว่า ขีปนาวุธที่ระเบิดในเขตแดนโปแลนด์เมื่อวันอังคารและทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน อาจถูกยิงมาจากระบบป้องกันตนเองทางอากาศของยูเครน ไม่ใช่การโจมตีจากรัสเซีย
แต่ทางประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี คัดค้านมุมมองของนาโต้ดังกล่าว ซึ่งไม่บ่อยครั้งนักที่ผู้นำยูเครนจะมีความเห็นที่แตกต่างจากองค์การนาโต้ ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า คำพูดของปธน.เซเลนสกี ที่ยืนยันว่า ขีปนาวุธนั้นไม่ใช่ของยูเครน ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้
ประธานาธิบดีโปแลนด์ อันด์แชย์ ดูดา กล่าวในวันพุธว่า "ระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนยิงขีปนาวุธออกมาหลายทิศทาง และมีโอกาสสูงที่หนึ่งในนั้นจะตกลงในเขตแดนของโปแลนด์" โดยเชื่อว่า ขีปนาวุธดังกล่าวคือ จรวดรุ่น S-300 ซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธยุคโซเวียตที่ถูกใช้จากทั้งฝั่งยูเครนและรัสเซีย
ทางด้าน เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ กล่าวว่า อาวุธดังกล่าวอาจเป็นขีปนาวุธป้องกันทางอากาศของยูเครน แต่รัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากรัสเซียบุกรุกยูเครน จุดชนวนให้เกิดสงครามมาเกือบเก้าเดือนแล้ว โดยขณะนั้น รัสเซียยิงขีปนาวุธจำนวนมากไปยังหลายเมืองในยูเครน
Your browser doesn’t support HTML5
ขณะเดียวกัน ศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ มีคำตัดสินในวันพฤหัสบดี เอาผิดกับอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียสองคน และผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนอีกหนึ่งคน จากเหตุการณ์ยิงเครื่องบินโดยสารสายการบิน มาเลเซียน แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 ตกในยูเครนเมื่อปีค.ศ. 2014 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 298 คน โดยผู้ต้องหาทั้งสามคนถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุทางทวิตเตอร์ว่า "การกระทำที่โหดร้ายของรัสเซีย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน จะต้องถูกลงโทษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
- ที่มา: รอยเตอร์