เลือกตั้งกลางเทอม: ‘ทีนา มหาราธ’ ลุ้นชัยสมัยสอง ส.ว.ท้องถิ่น 'โอไฮโอ'

Ohio's state senator Tina Maharath is the first Asian-American woman elected to the Ohio Senate.

Your browser doesn’t support HTML5

Tina Maharath Profile Part 2.mp3

"การเป็น ส.ว.ท้องถิ่นหญิงเอเชียนอเมริกันในรัฐโอไฮโอ บางทีก็ทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันกำลังยืนอยู่บนโต๊ะร้องตะโกนปาว ๆ พูดถึงปัญหา ที่ไม่มีใครสนใจฟัง"

ทีนา มหาราธ (Tina Maharath) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเมืองสหรัฐฯ โดยการเป็นสตรีอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาท้องถิ่นของรัฐโอไฮโอเมื่อสี่ปีก่อน แต่ชัยชนะที่ได้มา เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางสี่ปีที่ไม่ง่ายนัก ของการเป็นสมาชิกใหม่ในสภานิติบัญญัติ ในอัตลักษณ์ของการเป็นผู้หญิง และเป็นคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย

"ความท้าทายอย่างหนึ่งคือการพยายามต่อสู้เพื่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ฉันเป็นหนึ่งในสอง ส.ว.เอเชียนอเมริกันในวุฒิสภาของรัฐ แต่ในสภาผู้แทนราษฎรท้องถิ่นของรัฐนั้นไม่มีเอเชียนอเมริกันเลย เราสองคนพยายามนำเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย แต่ร่างกฎหมายเหล่านั้นก็มักจะถูกตีตกไป" ทีนา มหาราธ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอไทย

รัฐโอไฮโอมีสถานะเป็น state government trifecta คือเป็นรัฐที่มีพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้คือพรรครีพับลิกัน ที่สามารถกุมเสียงข้างมากในการทำงานของฝ่ายบริหาร หรือสำนักผู้ว่าการรัฐ และฝ่ายนิติบัญญัติทั้งสภาบนและสภาล่างเอาไว้ได้ การเสนอร่างกฎหมายของสมาชิกสภานิติบัญญัติจากฝั่งเดโมแครต จึงมักจะไม่ประสบผลสำเร็จ

ช่วงเวลาที่ทีนาดำรงตำแหน่งในวุฒิสภาท้องถิ่น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีการระบาดของโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของการใช้ความรุนแรงทั้งทางวาจา และร่างกายต่อชาวเอเชียนอเมริกันทั่วประเทศ

ส.ว.หญิงจากครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวลาว ที่อพยพมาอยู่โอไฮโอในปี ค.ศ.1990 จึงได้พยายามเสนอให้มีการจัดตั้ง Asian American commission หรือ คณะกรรมการด้านเอเชียนอเมริกัน ประจำสภานิติบัญญัติโอไฮโอขึ้นมา เพื่อเป็นฝ่ายให้คำปรึกษาแก่ฝ่ายบริหารของรัฐ

"การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังที่มีต่อชาวเอเชียนอเมริกัน ได้เร่งความจำเป็นที่จะต้องมี [คณะกรรมการด้านเอเชียนอเมริกัน] เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนเอเชียนอเมริกัน โดยเฉพาะความกังวลและความต้องการเพื่อสร้างความปลอดภัยให้พวกเขา"

Ohio's state senator Tina Maharath, the first Asian-American woman elected to the Ohio Senate, talked with another woman at an event in Columbus, OH.

สมาชิกสภานิติบัญญัติคนอื่นมักจะให้เหตุผลว่า หากเอเชียนอเมริกันต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถเข้าไปรวมกลุ่ม หรือขอความช่วยเหลือจากคณะกรรมการที่ดูแลชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ เช่น แอฟริกันอเมริกัน

"แต่ประเด็นคือ [ชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ] ไม่ใช่มีความเป็นเอกานุภาพ หรือเป็นแค่กลุ่มกลุ่มเดียว แต่ละกลุ่มก็แตกต่างกันไป แต่เพื่อนร่วมสภาฉันกลับไม่ยอมเข้าใจตรงจุดนี้ ซึ่งมันทำให้ฉันผิดหวังและขัดข้องใจมาก เพราะวัฒนธรรมของเอเชียแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไป ภาษา และแม้แต่ศาสนาก็ไม่เหมือนกัน"

แต่ทั้งนี้ วุฒิสมาชิกวัย 31 ปีก็ยอมรับว่า การผลักดันเรื่องผลประโยชน์หรือการคุ้มครองของเอเชียนอเมริกันเป็นไปได้ยาก สาเหตุหนึ่งเกิดจากการที่พลเมืองอเมริกันเชื้อสายเอเชียยังไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองสหรัฐฯ มากเท่าที่ควร ทำให้รัฐบาลหรือฝ่ายบริหารท้องถิ่นไม่เห็นความสำคัญของเอเชียนอเมริกันมากนัก อย่างไรก็ตามเธอมองว่าแนวโน้มการมีส่วนร่วมจะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุยังน้อย โดย Pew Research Center คาดว่าในการเลือกตั้งกลางเทอมนี้ จะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื้อสายเอเชีย 13.3 ล้านคน คิดเป็น 5.5% ของผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด

Phasuree Channakhon.

ในการเลือกตั้งกลางเทอม หรือ midterm election ในวันที่ 8 พฤศจิกายน มีผู้มีสิทธิใช้เสียงเลือกตั้งเชื้อสายเอเชียที่บอกกับวีโอเอไทยว่า จะมีโอกาสลงคะแนนเสียงเป็นครั้งแรก และจะลงคะแนนให้ทีนาโดยเฉพาะ โดยหนึ่งในนั้นคือ ภาสุรีย์ จันนคร หญิงไทยจากหนองคาย ผู้มีศักดิ์เป็นป้าของเธอ และเป็นพลเมืองอเมริกันป้ายแดง

"แต่ก่อนเราไม่ได้ใส่ใจการถือสัญชาติอเมริกัน" ภาสุรีย์กล่าว "เราถือพาสปอร์ตไทย เราถือกรีนการ์ด เราก็ไปไหนได้หมด แต่รู้สึกมาว่าเห็นหลานเป็น senator แล้วรู้สึกว่า หนึ่งเสียงมันมีความหมายกับเขามาก ถ้ารอบที่แล้ว เกิดเขาแพ้คู่ต่อสู้ไปหนึ่งเสียง ซึ่งเสียงนั้นมันควรจะเป็นเสียงเรา เราจะเสียใจนะ เราจะรู้สึกแบบทำไมเราไม่เอา เรารู้สึกว่าหนึ่งเสียงมันมีความหมายสำหรับเราคนหนึ่ง เราเลยตั้งใจ"

ในการหาเสียงครั้งนี้ มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างจากเมื่อสี่ปีก่อน

"ย้อนไปเมื่อปี 2018 พวกเราทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพื่อนและครอบครัวของฉันไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนด้านการเงินเท่านั้น แต่พวกเขายังช่วยสนับสนุนด้านอื่น ๆ เช่น ทำอาหารมาเลี้ยงเวลามีงาน ช่วยงานธุรการเอกสาร มาช่วยเดินหาเสียง เวลาที่ฉันต้องการคนช่วยขับรถ หรือต้องหาคนมาช่วยเลี้ยงลูก พวกเขาก็จะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ในครั้งนี้ ฉันมีทรัพยากรที่มากขึ้น ทำให้การหาเสียงครั้งนี้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ต้องลำบากขนาดนั้นอีกต่อไป มันง่ายขึ้นมากเพราะฉันมีคนในชุมชนสนับสนุน" ทีนากล่าว

Ohio's state senator Tina Maharath (left), the first Asian-American woman elected to the Ohio Senate, met with her constituent during her campaign ahead of the November 2022 midterm election.

ประเด็นหลักในการหาเสียงของ ส.ว.หญิงเขต 3 จากพรรคเดโมแครตครั้งนี้ เน้นไปที่การสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชน สร้างงานที่ให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ในจุดที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้เธอยังสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้เข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข และยังรณรงค์ให้ผู้หญิงมีสิทธิเข้าถึงบริการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนแรงประเด็นหนึ่งในการเลือกตั้งกลางเทอมโดยเฉพาะในระดับรัฐและระดับท้องถิ่น หลังจากที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ หรือ Supreme Court มีเสียงส่วนใหญ่ให้คว่ำการพิจารณาคดี Roe v. Wade ที่เคยให้สตรีมีสิทธิคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญในการทำแท้งส่งผลให้สิทธิในการทำแท้งขึ้นอยู่กับการกำหนดของรัฐบาลท้องถิ่นหรือรัฐบาลของแต่ละรัฐ

นอกจากจะมีตารางการพบปะชุมชนต่าง ๆ และผู้มีส่วนได้เสียในเขต 3 เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของพวกเขาแล้ว ทีนายังเน้นการหาเสียงแบบรากหญ้าเหมือนสี่ปีก่อน ในวันสุดสัปดาห์ เธอมักจะแต่งกายในชุดลำลอง เดินเคาะประตูตามบ้านในเขตชานเมืองของโคลัมบัส เมืองหลวงของรัฐโอไฮโอ ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 75% เป็นอเมริกันผิวขาว

ในการลงพื้นที่เพื่อดูการหาเสียงของ ทีนา มหาราธ เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา วีโอเอไทยได้เห็นว่าส่วนใหญ่เธอจะทิ้งเอกสารหาเสียงเลือกตั้งไว้หน้าประตูบ้าน เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้เปิดประตูออกมาต้อนรับ แต่ในบางครั้ง ก็มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเปิดประตูออกมาและใช้เวลาถกปัญหาเศรษฐกิจและสังคมอย่างจริงจังกับเธอเช่นกัน เช่น ในกรณีที่อดีตทหารผ่านศึกผู้มีบุตรสาวสองคน เปิดประตูต้อนรับและถามถึงจุดยืนของเธอต่อเรื่องสิทธิในการทำแท้ง เป็นต้น

Ohio's state senator Tina Maharath (D-Columbus) met with a group of Somani community members during her campaign ahead of the November 2022 midterm election.

ในฐานะคุณแม่ลูกสอง บางครั้งทีนาต้องพาลูกชายวัย 11 ขวบไปไหนมาไหนด้วยในการเดินทางหาเสียง และทิ้งลูกชายวัยห้าเดือนไว้กับสามีชาวอเมริกันเชื้อสายม้ง ซึ่งเป็น ส.ส.ท้องถิ่นของเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา ที่มาช่วยเลี้ยงลูกในช่วงที่เธอหาเสียงโดยเฉพาะ

“ความท้าทายอย่างหนึ่งที่เหมือนกันในปี 2018 กับปี 2022 ก็คือ เรื่องการเลี้ยงดูลูก ในปี 2018 ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ในแต่ปี 2020 ฉันต้องเจอกับวิกฤติการเลี้ยงดูเด็กอ่อน ซึ่งไม่ใช่วิกฤติของฉันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ ทั่วรัฐและทั่วประเทศ เราไม่เปิดโอกาสให้คนที่เป็นผู้ปกครองสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองอย่างฉันเองก็ไม่ได้มีโอกาสหาเสียงได้เต็มที่”

“ฉันจึงคิดว่ามันสำคัญนะ ที่เราต้องมาดูว่า เราเลือกใครไปเป็นผู้แทนของเราในรัฐสภา ถ้าไม่มีคนเป็นแม่ในรัฐบาลหรือในสภา เพื่อไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้ปกครองที่ต้องทำงานไปด้วยดูแลลูกไปด้วย เราก็จะไม่ได้เห็นรัฐบาลออกนโยบายออกมาเพื่อช่วยกลุ่มพ่อแม่เหล่านี้ ซึ่งนั่นก็ตอกย้ำอีกนั่นแหละว่า การเลือกผู้แทนนั้นสำคัญมาก”

ในครั้งนี้ คู่แข่งฝ่ายตรงข้ามของทีนา คือ มิเชล เรโนลด์ส (Michele Reynolds) นักธุรกิจหญิงผิวดำจากพรรครีพับลิกัน ที่ได้ทุ่มเงินทำโฆษณาโจมตีทีนาทางโทรทัศน์ แต่เธอกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้เธอหวาดหวั่นมากเท่ากับการโจมตีเธอเมื่อสี่ปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอรู้ว่าเธอมีผู้สนับสนุนมากขึ้น และมีประสบการณ์ทางการเมืองมากขึ้น

Ohio's state senator Tina Maharath, the first Asian-American woman elected to the Ohio Senate, posed with her Thai aunt, Phasuree Channakhon (right).

ทีนา มหาราธ กล่าวว่า เป้าหมายระยะยาวของเธอคือการเข้าสู่สนามการเมืองในระดับประเทศ ถึงแม้ว่าเส้นทางที่เธอวาดฝันไว้นั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่ยังไม่แน่นอนก็ตาม

ก่อนจะจบบทสัมภาษณ์ วีโอเอไทยถามว่า ทีนา มหาราธ ว่าหากเธอชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ย. นี้ เธอคิดว่า ชัยชนะของเธอเกิดจากอะไร ซึ่ง ส.ว.หญิงเขต 3 ของโอไฮโอตอบอย่างฉะฉานว่า “People will vote for me because I am them” หรือ “คนจะเลือกฉันเพราะฉันคือพวกเขาเหล่านั้น”

“ฉันเป็นคนที่ใช้ชีวิตมาเหมือนพวกเขา เป็นคนที่มาจากชุมชนเดียวกัน และยังใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนนี้” เธอกล่าว “ถ้าฉันจะทำงานให้ประชาชน ประชาชนต้องการคนที่ดูเหมือนพวกเขา ที่ทำตัวเหมือนพวกเขา และคนที่รู้ว่าพวกเขาต้องเจอกับอะไรในแต่ละวัน

ทีนายอมรับว่า อดีตของเธอที่เป็นเป้าของการโจมตีทางการเมืองเมื่อสี่ปีก่อน เคยทำให้เธอเจ็บปวดและเสียใจกับภูมิหลังและการตัดสินใจบางอย่างของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียและบาดแผลในครอบครัว การยื่นล้มละลาย การหย่าขาดจากสามีและการต่อสู้เพื่อได้สิทธิเลี้ยงลูก หรือการขับรถชนคนแล้วหนี ด้วยความคิดสั้นแบบวัยรุ่นอายุ 16 ซึ่งต่อมาเธอได้ออกมาขอโทษ และมีรายงานข่าวว่าชายคนดังกล่าวโดนรถคันอื่นชนไปก่อนแล้ว

แต่ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ลูกสาวผู้ลี้ภัยชาวลาวผู้นี้ได้พยายามอย่างหนักที่จะยอมรับความผิดพลาดและความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง ซึ่งเธอกล่าวว่าประสบการณ์ดังกล่าวทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น ทั้งในแง่ส่วนตัว และในแง่ของการเป็น “ผู้แทน” ของประชาชน

“นี่ไม่ใช่ยุคที่ทุกคนต้องสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีรูปแบบการใช้ชีวิตเหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนจะจบมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ทุกบ้านที่จะมีแค่ผู้ชายและผู้หญิงอีกต่อไป และไม่ใช่ทุกครัวเรือนที่จะมีแค่พ่อหรือแค่แม่ที่เป็นคนทำงาน ทุกครัวเรือนแตกต่างกันไป การใช้ชีวิตของทุกคนก็ไม่เหมือนกัน และนั่นก็ทำให้ฉันมีความหวังว่าในอนาคต เราจะสามารถมีผู้แทนของประชาชน ที่เป็นตัวแทนของคนที่แตกต่างหลากหลายอย่างแท้จริง แทนที่จะได้ผู้แทนที่ต้องมาจากครอบครัวที่มีชายสูงวัยผิวขาวเป็นผู้นำครอบครัวเท่านั้น"

  • รายงานโดย วรางคณา ชมชื่น