สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หวาง หยาง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ระดับหัวหน้าจากมณฑลกวางตุ้ง กำลังถูกจับตามองว่าเป็นตัวเก็งคนหนึ่งที่อาจขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของจีน
ชายผู้นี้เคยเเสดงจุดยืนในทาง "เสรีนิยม" แต่ท่าทีเหล่านั้นเป็นที่เห็นประจักษ์น้อยลงตั้งแต่ สี จิ้นผิงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีน
ในช่วงที่หวาง หยางทำหน้าที่หัวหน้าพรรคสาขากวางตุ้ง ซึ่งติดกับฮ่องกง เขาผลักดันการปรับปรุงอุตสาหกรรมที่ล้าสมัยและต้องการให้นโยบายภาคสังคมคำนึงถึงความเป็นอยู่ของคนทุกกลุ่ม
เมื่อปลายปี 2011 ขณะเกิดเหตุเผชิญหน้ากันกรณีเเย่งที่ดิน หวางไล่เจ้าหน้าที่ที่คอร์รัปชั่นออกจากตำแหน่ง
นอกจากนั้น เขาเคยอนุญาตให้ผู้ประท้วงแย้งผลการเลือกตั้งท้องถิ่น ถือเป็นผลงานของเขาที่ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ
อย่างไรก็ตามในช่วง 10 ที่ผ่านมาที่สี จิ้นผิงเป็นประธานาธิบดี การทำงานในทิศทางสายเสรีนิยมที่มณฑลกวางตุ้งมีน้อยลง ขณะที่เกิดมาตรการลดทอนบทบาทของสื่อ และภาคประชาสังคม
รอยเตอร์รายงานว่าหวาง วัย 67 ปี คือหนึ่งในตัวเก็ง ผู้ที่จะมารับหน้าที่นายกฯ ต่อจากหลี่ เค่อเฉียง ที่จะลงจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม โดยหลี่มีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปรียบได้กับผู้นำอันดับสองของจีนรองจากประธานาธิบดี แต่อาจมิได้สำคัญมากนักในเชิงอิทธิพล เนื่องจากประธานาธิบดีสีได้รวมศูนย์อำนาจของเขาไว้เเล้ว
และเป็นที่คาดหมายว่า ที่การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จะเริ่มในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ สี จิ้นผิงจะเดินหน้ารับตำแหน่งประธานพรรคสมัยที่สาม ซึ่งการครองตำแหน่งสามสมัยเป็นเรื่องใหม่ของพรรค
รายงานข่าวระบุว่า หวาง หยาง ประสบความสำเร็จเเม้มิได้เกิดมามีฐานะดี เขาเคยเป็นลูกจ้างในโรงงานผลิตอาหาร และทำงานตั้งเเต่อายุยังน้อยเพื่อเลี้ยงครอบครัว ซึ่งแม่ของเขาเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว
หวาง เริ่มก้าวหน้าในพรรคเมื่อเขาได้รับความสนใจจาก เติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีนผู้ทรงอิทธิพล และต่อมาหวางสนิทสนมกับหู จินเตา อดีตประธานาธิบดีจีน
ผู้ที่ได้พบกับหวาง กล่าวว่าเขาเป็นคนมีความมั่นใจในตนเองและมีคุณลักษณะน่ายอมรับนับถือ เขาชอบที่จะปล่อยให้เห็นผมหงอก เเทนที่จะย้อมผมดำสนิท ซึ่งเเตกต่างจากคนระดับผู้นำของจีนคนอื่น ๆ
เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ที่เขาได้พบปะกับนักข่าวที่กวางเจา หวางสนทนากับสื่อแบบไม่มีบทพูด และเเสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขันของเขาในหลายประด็นที่คุยกัน
การวางตัวเป็นกันเองเช่นนี้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่หวางแตกต่างจากผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ตามปกติอย่างชัดเจน
รอยเตอร์รายงานว่าเมื่อปี 2013 หวางได้พบกับเเจ็ค ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯในขณะนั้น เขาได้คุยติดตลกเรื่องการสมรสของชาวเกย์
อาจารย์ วิลลี่ เเลมแห่ง Chinese University ที่ฮ่องกงบอกกัยรอยเตอร์ว่า "เเน่นอนว่า (หวาง) เป็นคนหัวเสรีนิยมที่สุดในกลุ่มโพลิตบิวโร"
สำหรับบทบาทอื่น ๆ ของเขา หวางเคยรับผิดชอบงานด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกับสหรัฐฯ
เมื่อปี 2017 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งในอยู่ในคณะกรรมการบริหารสูงสุดของพรรค โดยมีความอาวุโสอันดับสี่ จากจำนวนสมาชิกทั้งหมดเจ็ดคน
นอกจากนั้นหวางดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มที่ปรึกษาด้านการเมืองของพรรคที่ชื่อว่า Chinese People's Political Consultative Conference หรือ CPPCC
ที่น่าสนใจคือ หากหวางเป็นสายเสรีนิยมและเเตกต่างจากผู้นำพรรคตามปกติ เหตุใดเขาจึงได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
รอยเตอร์รายงานว่า สีให้ความไว้ใจเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการที่หวางทำงานอย่างเงียบ ๆ และด้วยความจงรักภักดีต่อสีในช่วงห้าปีที่อยู่ในคณะกรรมการใหญ่ของพรรค
นอกจากนี้ ภายใต้การนำของสี หวางดูเหมือนว่าจะลดความคิดเสรีนิยมลง โดยเห็นได้จากการสะท้อนเเนวคิดเเข็งขันในเรื่องอำนาจของจีน ต่อประเด็นการเมืองร้อน ๆ เช่น ไต้หวัน ซินเจียงและทิเบต และเเสดงออกเพื่อสนับสนุนสีอย่างชัดเจน
ตัวอย่างเช่น ในการทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่ม CPPCC ภายในพรรค หวางรับผิดชอบด้านนโยบายของพรรคที่มีต่อมณฑลซินเจียงทางตะวันตกของจีน ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมุสลิม จำนวนที่อาจมากถึงหนึ่งล้านคนถูกคุมตัวให้อยู่ค่ายกักกัน
รอยเตอร์รายงานว่า ก่อนที่ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเดินทางเยือนซินเจียงในเดือนพฤษภาคมท่ามกลางเสียงวิจารณ์จีนจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน หวางกล่าวว่าชาวมุสลิมในซินเจียงอยู่กันอย่างมี "ความสุขและความมั่นคง" ในชีวิต ตามรายงานของสื่อซินหัวของจีน
- ที่มา: รอยเตอร์