ผู้นำยูเครนเรียกร้องสหประชาชาติปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน ท่ามกลางความกังวลต่อการโจมตีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริห์เชีย ทางภาคใต้ของยูเครน
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไม่มีอุปสรรคกั้นขวางภารกิจของผู้ตรวจสอบของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ในการเข้าถึงซาปอริห์เชีย และรัสเซียต้องเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ของ IAEA เข้าถึงโรงไฟฟ้าในพื้นที่ พร้อมทั้งต้องถอนทหารออกจากพิกัดของโรงไฟฟ้าโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข
ผู้นำยูเครนยังบอกด้วยว่า “หากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เราคงต้องโยนเอกสารด้านนิวเคลียร์ของหน่วยงานระหว่างประเทศลงถังขยะไปได้เลย รัสเซียกำลังทำลายกฎระเบียบระหว่างประเทศนี้อยู่”
ก่อนหน้านี้ ผู้นำยูเครนได้พบกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเทอเรซ และประธานาธิบดีรีจิบ เทยิบ เออโดวาน แห่งตุรกี ที่เมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครน ซึ่งกูเทอเรซ เรียกร้องให้พื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในซาปอริห์เชียเป็น “เขตปลอดทหาร” และขอให้มีการถอนยุทโธปกรณ์และทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย
ส่วนการหารือระหว่างปธน.เซเลนสกีกับปธน.เออโดวานนั้น ครอบคลุมความร่วมมือด้านกลาโหม เศรษฐกิจ และพลังงาน โดยผู้นำยูเครนระบุว่า มีการลงนามข้อตกลงด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างตุรกีและยูเครนในวันพฤหัสบดี
ขณะที่การหารือสามฝ่าย ระหว่างปธน.เซเลนสกี เลขาฯ ยูเอ็น กูเทอเรซ และปธน.เออโดวาน มุ่งเน้นความร่วมมือในยุติสงคราม และการเดินหน้าขนส่งธัญพืชทางเรือภายใต้ข้อตกลงทะเลดำ เพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลก ซึ่งสามารถส่งธัญพืชราว 560,000 ตันแล้วนับตั้งแต่ข้อตกลงดังกล่าวลงนามกันไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การสู้รบยังดำเนินต่อไปในยูเครน ทางการยูเครนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และบาดเจ็บ 40 คน จากการโจมตีโดยขีปนาวุธรัสเซียในคาร์คิฟช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี ขณะที่รัสเซียอ้างว่าได้โจมตีฐานที่มั่นของนักรบต่างชาติ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 90 คนจากการโจมตีดังกล่าว
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์