คนหนุ่มสาวในประเทศยูเครนจัดปาร์ตี้เต้นรำเพื่อช่วยกันซ่อมแซมความเสียหายอันเกิดจากการทำสงครามกับประเทศรัสเซีย
ที่หมู่บ้าน “ยาฮิดเน” ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของยูเครน มีการจัดงานเต้นรำแนว “เรฟ” ซึ่งเป็นปาร์ตี้ขนาดใหญ่ที่เปิดเพลงเทคโนแดนซ์ เกิดขึ้นท่ามกลางการทำลายล้างเพื่อการยึดครองของรัสเซียเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
งานเต้นรำดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลายประการ ทั้งยังเป็นช่องทางให้แก่คนหนุ่มสาวเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20 และ 30 ปี ในการร่วมกันสร้างประเทศขึ้นใหม่ โดยงานปาร์ตี้นี้ถูกเรียกว่า "clean-up rave" และจะจัดขึ้นในตอนกลางวันแทนที่จะเป็นตอนกลางคืน
ทั้งนี้ หนุ่มสาวชาวยูเครนได้จัดงานปาร์ตี้เพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่ทางตอนเหนือของยูเครน ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักระหว่างการโจมตีของรัสเซีย โดยบรรดาอาสาสมัครจะใช้พลั่วในการเคลื่อนย้ายเศษซากปรักหักพังของศูนย์วัฒนธรรมที่อยู่ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านยาฮิดเน ซึ่งถูกทำลายโดยขีปนาวุธของรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม
โอเล็คซานเดอร์ บูชินสกี้ รับหน้าที่ดีเจของงานปาร์ตี้ เขาจะวางแผ่นเสียงของเขาเอาไว้บนกล่องกระสุน และในขณะที่เขาเปิดเพลง อาสาสมัครบางคนก็จะหยุดพักจากการทำงานเพื่อเต้นไปตามเสียงเพลง
ทันย่า บิวเรียโนวาวัย 26 ปี ผู้จัดตั้งโครงการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวบรวมอาสาสมัครเพื่อช่วยในโครงการฟื้นฟูต่าง ๆ เธอชื่นชอบดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเคยไปงานปาร์ตี้มากมาย แต่เธอบอกว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งสงครามและเราต้องการที่จะช่วยเหลือประเทศของเราด้วยการใช้เสียงดนตรี” และว่าการเป็นอาสาสมัครคือการใช้ชีวิตของเธอในตอนนี้
การที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้กิจกรรมดนตรีและคลับอันคึกคัก ที่กรุงเคียฟต้องจบลง เพราะมีเคอร์ฟิวในตอนกลางคืนท่ามกลางภัยคุกคามจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมปาร์ตี้ก็ต้องการหาวิธีที่จะได้สนุกสนานไปกับเสียงดนตรีและการเต้นรำอย่างมีอิสระ และยังได้ช่วยกันสร้างประเทศที่ตนรักขึ้นมาใหม่อีกด้วย
บิวเรียโนวากล่าวว่า clean-up raves ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนว่าได้มีชีวิตแบบปกติ สำหรับผู้ที่ต้องสูญเสียความบันเทิงในยามค่ำคืนไปในภาวะสงคราม อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นได้ช่วยเหลือประเทศ
เธอบอกกับเอพีว่า “พวกเราคิดถึงงานปาร์ตี้ต่าง ๆ และต้องการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ตอนนี้ชีวิตปกติของเราก็คือการเป็นอาสาสมัคร”
ในระหว่างการยึดครองของรัสเซียนั้น ประชากรเกือบทั้งหมดของหมู่บ้านยาฮิดเนซึ่งมีอยู่เพียง 300 กว่าคน ต้องอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินหรือห้องใต้ดินเป็นเวลานานหลายสัปดาห์
นีน่า หญิงวัย 68 ปีซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทางตอนเหนือของเชอร์นิฮิฟเล่าว่า เธอต้องอยู่ในชั้นใต้ดินเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และว่ามีผู้เสียชีวิตในที่แห่งนั้นถึง 11 คนเนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ และเธอก็รู้สึกขอบคุณที่เห็นคนหนุ่มสาวมาช่วยกันซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ อาสาสมัครส่วนใหญ่มาจากกรุงเคียฟ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสองชั่วโมงโดยการเดินทางทางรถยนต์ หลาย ๆ คนมาจากเชอร์นิฮิฟ ซึ่งอยู่ไม่ไกล หรือมาจากเมืองลวิฟ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตก นอกจากนี้ อาสาสมัครบางคนยังมาจากประเทศอื่น ๆ เช่น โปรตุเกส เยอรมนี และสหรัฐฯ
การฟื้นฟูบูรณะศูนย์วัฒนธรรมของเมืองยาฮิดเนเป็นโครงการที่ 8 ของ Repair Together โดยอาสาสมัครได้ช่วยซ่อมแซมบ้าน 15 หลังในหมู่บ้านนี้ และจะสร้างบ้านอีก 12 หลังที่เมืองลูคาชิฟคา ให้แก่คนที่บ้านได้รับความเสียหายอีกด้วย
บูชินสกีกล่าวว่า ความหวังและความรับผิดชอบเป็นสิ่งสร้างความผูกพันในหมู่อาสาสมัครไว้ด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเจ็บปวด เสียใจ และโกรธแค้นจากสงครามแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้พวกเขายังรู้สึกว่าตนจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คน และทำให้ยูเครนเป็นที่ที่ดีกว่าเดิมพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของทุก ๆ คน
- ที่มา: เอพี