ทางการยูเครน ประเมินว่าอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 60 คนจากเหตุระเบิดโจมตีโรงเรียนทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันเสาร์ ขณะที่กองทัพรัสเซียยังระดมโจมตีฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพยูเครนในเมืองมาริอูโพล ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้ว่าการเขตปกครองลูฮันสก์ เซอร์กีย์ กายดาย เปิดเผยว่า เหตุระเบิดโดยกองทัพรัสเซียเกิดขึ้นที่โรงเรียนในเมืองบิโลโอริฟกา ซึ่งเป็นพื้นที่หลบภัยของประชาชนราว 90 ชีวิตเมื่อวันเสาร์ โดยมีผู้ได้รับการช่วยเหลือออกมาราว 27 คน แต่อีก 60 คนยังไม่ทราบชะตากรรม และแทบไม่มีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดครั้งนี้
ทางรอยเตอร์ยังไม่สามารถยืนยันการรายงานดังกล่าวของผู้ว่าการเขตปกครองลูฮันสก์ได้ อีกทั้งยังไม่มีการให้ข้อมูลกลับมาจากทางรัฐบาลมอสโกเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าว ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้
ที่ผ่านมา ยูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตกกล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีพลเมืองผู้บริสุทธิ์ในสงครามยูเครน ซึ่งทางการรัสเซียออกโรงปฏิเสธมาโดยตลอด
อีกด้านหนึ่งในวันอาทิตย์ กองทัพยูเครนบริเวณโรงงานเหล็กในเมืองมาริอูโพล ร้องขอความช่วยเหลือในการอพยพทหารที่บาดเจ็บจากเหตุโจมตีในพื้นที่ โดยมีรายงานประชาชนอีกกว่า 170 คน อพยพจากเมืองมาริอูโพลในวันเดียวกันนี้ ตามข้อมูลของสหประชาชาติ
ระหว่างการสู้รบระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครนดำเนินเข้าสู่เดือนที่สาม และยกระดับความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ทางผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี-7 ประกาศกร้าวในวันอาทิตย์ว่า จะเพิ่มมาตรการโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย และยกระดับมาตรการลงโทษกับกลุ่มชนชั้นนำที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลเครมลินเพิ่มขึ้นไปอีก
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และผู้นำชาติอื่นๆ ในกลุ่มจี-7 ได้หารือผ่านทางออนไลน์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ในวันอาทิตย์ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับยูเครน ก่อนการเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะ หรือ Victory Day ในรัสเซียที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ ผู้นำกลุ่มจี-7 ให้คำมั่นว่าจะแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียซึ่งจะดำเนินการเป็นเฟสไป และประณามการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันอาทิตย์ด้วยว่า “การกระทำของเขา (ปูติน) ได้นำความอับอายมาสู่รัสเซีย”
รัฐบาลวอชิงตัน ได้ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจรอบใหม่ พุ่งเป้าไปที่ผู้บริหารและภาคธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อหวังโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย และจำกัดทรัพยากรที่ใช้ในการทำสงครามกับยูเครน อีกทั้งยังประกาศนโยบายจำกัดหรือเพิกถอนการออกวีซ่ากับเจ้าหน้าที่ของกองทัพรัสเซียอีกกว่า 2,500 คนด้วย ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
- ที่มา: รอยเตอร์