นักร้องเพลงแรพชาวไทย MILLI (มิลลิ) วัย 19 ปีได้รับโอกาสขึ้นเวทีระดับโลกในงาน Coachella Valley Music and Arts Festival เมื่อวันเสาร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา และสร้างความฮือฮาเมื่อเธอหยิบชามใส่ข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นมารับประทานระหว่างทำการแสดงร้องเพลง “Mango Sticky Rice”
ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เทศกาลดนตรีและศิลปะ Coachella Valley Music and Arts Festival ซึ่งเรียกสั้น ๆ ว่า โคชเชลลา (Coachella) เป็นงานแสดงดนตรีขนาดใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เขตทะเลทราย ในเมืองอินดิโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่ไกลจากนครลอสแอนเจลิส
2019 Coachella Music And Arts Festival
โคชเชลลาจัดติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 20 ปี คือตั้งแต่ปีค.ศ.1999 โดยมีผู้เข้าร่วมงานหลายแสนคน แต่งานนี้ถูกยกเลิกไปในปีค.ศ. 2020 และ 2021 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และได้กลับมาจัดใหม่อีกครั้งในปีนี้ระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน และ 22-24 เมษายน
ในแต่ละปี ศิลปินนักร้องจากหลายประเทศจะเข้าร่วมงานเทศกาลดนตรีครั้งยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งจัดแสดงดนตรีทุกแนว ไม่ว่าจะเป็น ร็อค ป็อป ฮิพฮอพ แดนซ์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะและประติมากรรมต่าง ๆ ในบริเวณงานด้วย
สื่อแอลเอไทมส์ รายงานว่า ปีนี้มีการระดมศิลปินชื่อดังมาอย่างคับคั่ง เช่น แฮร์รี สไตลส์, บิลลี ไอลิช, เดอะ วีคเอนด์ และ สวีดิช เฮาส์ มาเฟีย เป็นต้น
Thai Rapper - MILLI
สำหรับ มิลลิ ศิลปินนักร้องเพลงแรพจากประเทศไทย เข้าร่วมงานนี้ในสังกัดนักร้องเอเชียจากค่ายเพลง 88rising ซึ่งรวมนักร้องเพลงป๊อปและแรพเปอร์จากฝั่งเอเชียหลายคน เช่น วอร์เรน ฮิว และ นิกิ จากอินโดนีเซีย, ฮิคารุ อูทาดะ จากญี่ปุ่น, แจ็คสัน หวัง จากจีน วง 2NE1 จากเกาหลีใต้ และ มิลลิ จากไทย ซึ่งร่วมแสดงภายใต้โครงการ “Head in the Clouds Forever”
สื่อ ดิ อินดิเพนเดนต์ รายงานว่า ค่าย 88rising ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในนครแอลเอ ได้ร่วมทำงานกับศิลปินทั่วเอเชียมาตั้งแต่ปีค.ศ 2015 และได้นำนักร้องเอเชียทั้งชายและหญิงมาร่วมแสดงในงานโคชเชลลาเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยได้เวลาทั้งหมด 80 นาทีซึ่งเน้นการแสดงที่หลากหลายจากนักร้องแต่ละชาติ
และในการแสดงของมิลลิจากประเทศไทย เมื่อช่วงหัวค่ำวันเสาร์ตามเวลาที่แคลิฟอร์เนียนั้น เธอได้นำอาหารหวานยอดนิยมของไทย ข้าวเหนียวมะม่วง ขึ้นไปตักรับประทานขณะร้องเพลง “Mango Sticky Rice” ซึ่งเป็นเพลงใหม่ของเธอด้วย
- ข้อมูลบางส่วนจาก รอยเตอร์ แอลเอไทมส์ และ ดิ อินดิเพนเดนต์