วิเคราะห์: เหตุใดยังเร็วเกินไปที่จะเชื่อ “ข่าว” อำนาจปูตินสั่นคลอน

FILE - A woman walks near the Kremlin and St. Basil's Cathedral in central Moscow, Russia, Feb. 22, 2022.

สงครามข่าวสารที่เกิดขึ้นหลังรัสเซียบุกยูเครน กำลังทวีความรุนเเรงยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการต่อสู้กันในสนามรบจริง

ขณะที่รัสเซียประสบความล่าช้าในหลายพื้นที่ในการรุกคืบเข้าไปใกล้เมืองสำคัญในประเทศยูเครน รัสเซียก็กำลังเผชิญกับข้อมูลบนโซเชี่ยลมีเดียที่ว่าอำนาจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินอยู่ในช่วงที่สั่นคลอนอย่างหนัก

ตัวอย่างเช่น จากทวีตของนายแอนเดอร์ส แอสลุนด์ นักวิเคราะห์เศรษฐกิจชาวสวีเดนที่เคยทำงานให้คำปรึกษารัฐบาลรัสเซียและยูเครน

ทวีตดังกล่าวระบุว่า “ไม่ว่าปูตินทำอะไรลงไป เขาคงอยู่รอดต่อไปได้อีกไม่นาน”

คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือข่าวเหล่านี้เชื่อถือได้เพียงใด?

ผู้สื่อข่าววีโอเอเจมี เด็ทต์เมอร์คุยกับผู้สันทัดกรณีและสรุปว่า เเม้ปัจจุบันการเมืองรัสเซียจะเห็นภาพชัดของกลุ่มอำนาจที่เเตกต่างกันไป แต่มุมมองที่เเตกต่างนั้นยังไม่สามารถทำให้คิดได้ว่าประธานาธิบดีปูตินกำลังจะหมดอำนาจลง ณ เวลานี้

แน่นอนว่าการที่รัสเซียยังคงพยายามยึดพื้นที่ในยูเครนเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว แทนที่จะประสบความสำเร็จแบบสายฟ้าเเลบ ย่อมเป็นที่มาถึงกระเเสข่าวเรื่องเสถียรภาพของปูติน ถึงจุดที่ว่ามีการตีความคำพูดของบุคคลทางการเมือง และคาดเดากันไปว่าใครจะเป็นผู้นำคนต่อไปของรัสเซีย

Russian President Vladimir Putin attends a meeting in Moscow, Russia, March 21, 2022. (Mikhail Klimentyev, Sputnik, Kremlin Pool Photo via AP)

อาร์คาดี ดะวอร์โควิช อดีตรองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Mother Jones ของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่เเล้วว่า “ผมนึกถึงชาวยูเครน... สงครามคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คนต้องเผชิญในชีวิต ซึ่งรวมถึงสงครามครั้งนี้ด้วย”

การออกมาเเสดงความคิดเห็นเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยมากในหมู่บุคคลระดับสูงทางการเมืองรัสเซีย

และเเทบจะทันทีที่ข่าวนี้ออกมา เขาถูกนักการเมืองรัสเซียตำหนิว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติ และจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ยุติบทบาทประธานของกองทุนด้านเทคโนโลยีของรัสเซียที่ชื่อ Skolkovo Foundation นอกจากนั้นกองทุนดังกล่าวเผยเเพร่ความเห็นที่กลับลำของ ดะวอร์โควิช โดยเขาได้กล่าวประณามโลกตะวันตก ทั้งยังเสียดสีสหรัฐฯ อีกด้วย

นักวิเคราะห์อิสระเช่น ทาเทียนา สตาโนวายา ที่ร่วมงานกับองค์กรวิจัยด้านนโยบาย Carnegie Moscow Center กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือการที่ชนชั้นนำสมัยอดีตประธานาธิบดีบอริส เยลท์ซิน มีความเห็นต่างจากชนชั้นนำสายอนุรักษ์นิยมในฝั่งของประธานาธิบดีปูติน

ผู้ที่ติดตามการเมืองรัสเซียมองว่าชนชั้นนำสมัยเยลท์ซินมิได้มีอิทธิพลมากทางการเมืองในยุคปัจจุบัน โดยกลุ่มที่มีอำนาจจริงๆคือกลุ่มอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะสายที่ทำงานด้านข่าวกรองและความมั่นคง

มีการปล่อยข่าวจากฝั่งยูเครนว่ากลุ่มบุคคลสำคัญในรัสเซียกำลังร่วมมือกันเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีปูตินเละตัวเลือกหนึ่งที่อาจขึ้นมาเป็นผู้นำรัสเซียคนต่อไปคือ หัวหน้าฝ่ายสอดเเนมของรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ บอร์ทนิคอฟ

Russia International Security

เรื่องนี้ตกเป็นข่าวเพราะข้อมูลมาจากเฟซบุ๊กของสำนักงานผู้อำนวยการใหญ่ด้านข่าวกรองแห่งกระทรวงกลาโหมของยูเครน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของฝ่ายตะวันตกรายหนึ่งบอกกับวีโอเอว่าเป็นเรื่องยากที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ณ เวลานี้

เขากล่าวว่า อันที่จริงเเล้ว ความเหมาะสมของการเป็นผู้นำของบอร์ทนิคอฟ ในหมู่ชนชั้นปกคอรงในรัสเซีย ถูกบั่นทอนจากข่าวกรองเกี่ยวกับยูเครนก่อนสงครามที่ทำให้เข้าใจผิดว่ารัสเซียจะสามารถบุกยูเครนได้โดยง่าย

นอกจากนั้นเเหล่งข่าวผู้นี้กล่าวว่า ไม่ง่ายที่จะเชื่อว่า หากประธานาธิบดีปูตินหมดอำนาจลง อเล็กซานเดอร์ บอร์ทนิคอฟจะมีชะตากรรมที่เเตกต่างกันไป เพราะเขาเป็นสปายสายเหยี่ยวที่จงรักภักดีกับระบอบการปกครองของรัสเซีย