เผยรัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน - นาโต้ปฏิเสธกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน

A damaged administrative building of the Zaporizhzhia nuclear power plant in Enerhodar, Ukraine, is seen in this handout photo released March 4, 2022.

ทางการยูเครนเผยว่า กองกำลังรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย ใกล้กับเมืองเอเนอร์โฮดาร์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปได้สำเร็จ หลังยิงปืนใหญ่และวางเพลิงอาคารที่อยู่ในบริเวณโรงไฟฟ้าดังกล่าว

หน่วยงานตรวจสอบดูแลนิวเคลียร์ของยูเครนระบุว่า ไม่มีกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจากโรงงาน และเจ้าหน้าที่ของโรงงานยังคงเดินหน้าระบบปฏิบัติการของโรงงานต่อไปได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ทางการยูเครนยังระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้

ในวันศุกร์ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุโจมตียูเครนของรัสเซีย โดยเป็นการจัดประชุมตามคำขอของอังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และแอลเบเนีย

ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศระบุว่า ขีปนาวุธของรัสเซียถูกยิงไปยังศูนย์ฝึกอบรมของโรงไฟฟ้าแห่งนี้

ขณะที่อังกฤษและนอร์เวย์กล่าวว่า การโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครั้งนี้ “บ้าระห่ำ” แต่ทางอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นเพราะกลุ่มโจมตีของยูเครนที่เข้ายึดอาคารฝึกอบรมของโรงงานดังกล่าว โจมตีหน่วยลาดตระเวนของรัสเซียและจุดไฟเผาอาคาร อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นี้ไม่ได้แสดงหลักฐานต่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว

ทั้งนี้ เมืองเอเนอร์โฮดาร์เป็นเมืองผลิตกระแสไฟฟ้าที่สำคัญ ตั้งริมฝั่งแม่น้ำดไนเปอร์ ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันออกเฉียงใต้เกือบ 700 กิโลเมตร โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียผลิตไฟฟ้าราว 25 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการไฟฟ้าทั้งหมดของยูเครน

Enerhodar, Ukraine

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์กังวลว่า การต่อสู้ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อาจทำให้ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงโรงงานดังกล่าว และอาจกระทบต่อการรักษาความเย็นพลังงานนิวเคลียร์และอาจทำให้นิวเคลียร์รั่วไหลออกมาได้

แถลงการณ์จากทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หารือกับประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน และรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขณะที่เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันเดียวกันว่า กระทรวงพลังงานได้ให้ทีมรับมือเหตุการณ์นิวเคลียร์ออกปฏิบัติการและติดตามเหตุการณ์ดังกล่าว

นาโต้ปฏิเสธกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน

ขณะเดียวกัน เมื่อวันศุกร์ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ปฏิเสธคำขอของยูเครนที่ขอให้ประกาศให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบิน

เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ระบุว่า การจะทำให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบินได้นั้น นาโต้จะต้องส่งเครื่องบินรบไปยังน่านฟ้าของยูเครนและยิงเครื่องบินของรัสเซีย ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีแต่จะทำให้สงครามกับรัสเซียขยายตัวยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดผู้นำรัสเซีย ซึ่งรวมถึงอะไลเชอร์ อุสมานอฟ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย โดยทางการเยอรมันได้ยึดเรือยอชท์ของเขาที่คาดว่ามีมูลค่าเกือบ 600 ล้านดอลลาร์ และอาจยึดเครื่องบินไอพ่นส่วนตัวของเขาเช่นกัน

บุคคลอื่นที่ถูกออกมาตรการลงโทษครั้งนี้ยังมีเพื่อนเก่าแก่ของปธน. ปูติน อดีตคู่เล่นยูโดของผู้นำรัสเซีย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธแวกเนอร์ กรุ๊ป และดมิทรี เพสคอฟ โฆษกของปูติน โดยเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีเพื่อกดดัน ปธน. ปูติน โดยพุ่งเป้าไปที่บุคคลที่อยู่ใกล้ชิดเขาที่สุด

  • ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์