สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลให้ภาคการเกษตรของสหรัฐฯ และแคนาดาเกิดภาวะขาดแคลนผลผลิตในปีนี้ เนื่องจากมาตรการเฝ้าระวังการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้คนงานต่างด้าวไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
คนงานต่างด้าวถือเป็นส่วนสำคัญของภาคการผลิตของอุตสาหกรรมการเกษตรของทั้งสหรัฐฯ และแคนาดา เนื่องจากประชากรของประเทศทั้งสองปฏิเสธที่จะทำงานใช้แรงงานเพื่อแลกกับค่าแรงขั้นต่ำ
ปกติ ภาคการเกษตรของแคนาดาว่าจ้างคนงานต่างด้าวแบบชั่วคราวราว 60,000 คน แต่คนงานเหล่านั้นยังไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้เนื่องจากมาตรการคุมเข้มที่ด้านเข้าประเทศและการที่สายการบินระงับการให้บริการชั่วคราว ขณะที่ผู้ที่เข้าประเทศมาได้ยังต้องเข้าสู่การกักตัวเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วันตามคำสั่งของรัฐบาลด้วย
ส่วนที่สหรัฐฯ อุตสาหกรรมการเกษตรจ้างงานคนงานต่างด้าวเกือบ 250,000 คน โดยส่วนใหญ่มาจากเมกซิโก เพื่อช่วยในฤดูการเก็บเกี่ยวแต่ละปี
เกษตรกรรายหนึ่งของแคนาดาบอกกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สว่า เขาคาดว่าอาจจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหน่อไม้ฝรั่งในปีนี้ที่จะออกมาในเดือนหน้าได้ หากคนงานชาวจาไมกาที่จ้างไว้มาทำงานไม่ได้หรือไม่ทันภายในกลางเดือนเมษายน
เกษตรกรบางรายในแคนาดากล่าวว่า หากไม่มีแรงงานต่างด้าวมาช่วย อาจจะต้องเก็บเกี่ยวพวกผักผลไม้ขนาดเล็กๆ ไปขายแทน
ขณะเดียวกัน ตัวแทนบริษัทผู้ค้าผักผลไม้ในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การที่ไม่มีแรงงานต่างด้าวมาช่วยงานในปีนี้ เกษตรกรอาจจะต้องประสบหายนะเลยทีเดียว
คนงานชาวเมกซิโกรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า หากไม่มีผลผลิตออกจากฟาร์มใดๆ ได้ในปีนี้ ผู้บริโภคในเมืองก็คงไม่มีอะไรทาน