Your browser doesn’t support HTML5
เดี๋ยวนี้อุปกรณ์ต่างๆที่ดูแสนจะธรรมดา ถูกปลุกชีพให้กลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ หลอดไฟ กระจก แว่นตา นาฬิกา ล้วนแล้วแต่อัพเกรดให้กลายเป็น Smart Gadget กันล่าสุดอุปกรณ์อัจฉริยะขยับเข้ามาใกล้ในระดับเครื่องแต่งกายกันแล้ว
เริ่มกันที่ “ผ้ากันเปื้อนอัจฉริยะ” (Smart Apron) ซึ่งพัฒนาโดย แอนนา โอ นักศึกษามหาวิทยาลัย New York University เอาใจผู้ที่รักการทำอาหารที่ต้องพึ่งพาสูตรจากคลิปวิดีโอสอนทำอาหารออนไลน์ ที่บางครั้งก็สร้างความลำบากหากต้องทำอาหารไปนั่งคลิกวิดีโอไป
Your browser doesn’t support HTML5
แอนนา โอ อธิบายว่า ผ้ากันเปื้อนนี้เชื่อมต่อแผ่นชิปคอมพิวเตอร์และเชื่อมต่อบลูทูธได้ ขณะที่ดีไซน์ของผ้ากันเปื้อนจะมีลายพิมพ์ที่ใช้หมึกชนิดพิเศษทำหน้าที่เป็นสวิตช์กดปุ่ม ช่วยให้คุณสามารถควบคุมคลิปวิดีโอ จะกดเล่น กดหยุด กดไปข้างหน้าหรือย้อนกลับ ซึ่งกดได้เลยบนสัญลักษณ์ที่พิมพ์บนผ้ากันเปื้อน ส่วนเวลาจะปรับเสียงดังเบาได้ โดยมีเชือกควบคุมเสียงบนผ้ากันเปื้อน
ผู้คิดค้นผ้ากันเปื้อนอัจฉริยะ เรียกชื่อเล่นของอุปกรณ์นี้ว่ารีโมทผ้ากันเปื้อน ซึ่งช่วยให้เธอไม่ต้องไปคลิกที่สมาร์ทโฟนหรือไอแพดเลย แถมยังสามารถซักล้างได้ตามปกติเพียงแค่ถอดแผงควบคุมเล็กๆด้านหน้าผ้ากันเปื้อนก่อนนำไปซักเท่านั้น
ส่วนอีกอุปกรณ์ที่ใกล้ตัวเข้าไปอีก คือ กางเกงขาสั้นอัจฉริยะ Exosuit พัฒนาโดยทีมวิจัยจากสถาบัน Wyss Institute ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นกางเกงขาสั้น มีลักษณะเป็นกางเกงรัดรูปน้ำหนักรวม 5 กิโลกรัม มีสายเคเบิลเชื่อมต่อมอเตอร์กับช่วงขาด้านบน และมีอัลกอริทึ่มช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินและวิ่งของผู้สวมใส่
โดยจะช่วยลดระดับการเผาผลาญพลังงานของผู้สวมใส่กางเกงนี้ลง 9.3% สำหรับการเดิน และ 4% สำหรับการวิ่ง หมายความว่าจะใช้พลังงานน้อยลงในการเดินและวิ่งตามลำดับ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยสำหรับการพัฒนาอุปกรณ์นี้ แต่การทดสอบการใช้ Exosuit เบื้องต้นพบว่า ผู้ที่สวมใส่จะรู้สึกน้ำหนักตัวน้อยลงราว 7.4 กิโลกรัมเมื่อใส่กางเกงนี้เดิน และรู้สึกน้ำหนักตัวลดลงราว 5.7 กิโลกรัมเมื่อใส่กางเกงตัวนี้วิ่ง
อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยยังต้องการพัฒนากางเกง Exosuit เพิ่มเติม ทั้งการทำให้มีน้ำหนักเบาลงอีก 40% และพัฒนาระบบเพิ่มประสิทธิภาพการเดินและวิ่งให้กับผู้สวมใส่แบบเฉพาะตัว ซึ่งจะมีประโยชน์กับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ผู้สูงอายุ หรือนักกีฬาได้ในอนาคต