Your browser doesn’t support HTML5
จีนเตรียมทวงบัลลังก์ ‘รถไฟความเร็วสูงที่สุดในโลก’
จีนเตรียมกลับมาทวงบัลลังก์ เจ้าแห่งรถไฟความเร็วสูงที่สุดในโลกอีกครั้ง ด้วยการปัดฝุ่นโครงการรถไฟหัวกระสุน ที่สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ได้ยกเลิกโครงการไปเมื่อ 6 ปีก่อน หลังรถไฟหัวกระสุน 2 ขบวนชนกัน ระหว่างการทดสอบความเร็ว จนทำให้จีนต้องลดระดับความเร็วของรถไฟความเร็วสูงให้ไม่เกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยการปลดล็อครถไฟความเร็วสูงสุดในโลกในเชิงพาณิชย์รอบนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 21 กันยายน บนเส้นทางระหว่างกรุงปักกิ่งไปยังเซี่ยงไฮ้ ที่ระยะทาง 1,300 กิโลเมตร ซึ่งจะร่นเวลาการเดินทางได้มากถึง 1 ชั่วโมงทีเดียว
ตอนนี้จีนมีรถไฟความเร็วสูงหลายขบวน แต่ไม่ใช่รถไฟหัวกระสุน เช่นรถไฟพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า หรอ Maglev ที่มีความเร็ว 430 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งเฉพาะสนามบินนครเซี่ยงไฮ้กับย่านใจกลางเมืองเท่านั้น
ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกยังคงแข่งขันในการชิงความเป็นหนึ่งด้านรถไฟความเร็วสูง ตอนนี้ญี่ปุ่นยังครองแชมป์อยู่ ที่ความเร็ว 603 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งยังไม่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์
ขณะที่ฝั่งยุโรป เยอรมนี อิตาลี และสเปน มีรถไฟความเร็วสูงที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนสหรัฐฯมีรถไฟความเร็วสูง Amtrak Acela Express ที่ความเร็ว 241 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอีก 4 ปีข้างหน้า Amtrak จะพัฒนารถไฟให้เร็วถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะนำมาใช้เชิงพาณิชย์ที่ความเร็ว 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อังกฤษเตรียมปฏิรูปศุลกากรหลัง Brexit
ธุรกิจนำเข้าส่งออกในอังกฤษต้องร้อนๆ หนาวๆ กันแล้ว เมื่อรัฐบาลอังกฤษมีแผนที่จะเก็บภาษีศุลกากรรูปแบบใหม่ หลังการแยกตัวจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ซึ่งจะทำธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4 ถึง 9 พันล้านปอนด์ หรือราว 1 แสน 8 หมื่นล้านบาท ถึง 4 แสนล้านบาทต่อปี
การเปลี่ยนแปลงระบบศุลกากรของอังกฤษในครั้งนี้ จะกระทบกับภาคธุรกิจนำเข้าส่งออกในสหภาพยุโรป หรือ EU ราว 1 แสน 8 หมื่นบริษัท แต่จะเอื้อประโยชน์ในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจหลัง Brexit ให้กับอังกฤษได้