สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ญาติของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น ระบุว่า ทางการจีนลบกลุ่มในสื่อสังคมออนไลน์ของพวกเขา และกดดันให้พวกเขาให้ “อยู่เงียบๆ” ขณะทีมขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ทำการสืบสวนหาต้นกำเนิดของเชื้อโคโรนาไวรัสในเมืองอู่ฮั่น
ก่อนหน้านี้ ญาติของผู้เสียชีวิตได้รวมตัวกันทางออนไลน์เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เมืองอู่ฮั่นแสดงความรับผิดชอบต่อการรับมือกับการระบาดของไวรัสเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว แต่กลุ่มดังกล่าวถูกทางการจีนเฝ้าติดตาม ข่มขู่ และขัดขวาง โดยทางการจีนกดดันญาติผู้เสียชีวิตมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในระหว่างที่ WHO ทำการสืบสวนอยู่
จาง ไห่ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มออนไลน์นี้ ระบุว่า กลุ่มของญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 80 – 100 คนบน WeChat สื่อสังคมออนไลน์จีน ถูกลบออกไปอย่างกระทันหันเมื่อ 14 วันก่อนโดยไม่มีคำอธิบาย โดยจางเห็นว่า ทางการจีนกำลังหวาดวิตกอย่างมากว่า สมาชิกครอบครัวผู้เสียชีวิตจะติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของ WHO
มารดาของผู้เสียชีวิตอีกคนที่ขอสงวนนามระบุว่า ทางการเรียกตัวเธอไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเตือนไม่ให้เธอ “พูดคุยกับสื่อหรือถูกคนอื่นใช้” ต่อมาในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ก็มาพบเธอถึงหน้าบ้านเพื่อย้ำเตือนเรื่องดังกล่าว และมอบเงิน "ค่าปลอบขวัญ” ให้เธอ 775 ดอลลาร์
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจาก WHO เดินทางมาถึงเมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 14 มกราคม และสิ้นสุดการกักตัวเป็นเวลา 14 วันในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ญาติผู้เสียชีวิตกล่าวหาว่า ทางการของเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยปล่อยให้โรคโควิด-19 ระบาด จนควบคุมไม่ได้ โดยพยายามปกปิดข้อมูลในช่วงแรกของการระบาดเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 ไม่สามารถแจ้งเตือนประชาชน และตอบสนองต่อการระบาดอย่างผิดพลาด
ข้อมูลของทางการจีนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นเกือบ 3,900 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตทั่วจีนที่ 4,636 คน
อย่างไรก็ตาม ญาติของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กลับไม่เชื่อถือตัวเลขของทางการจีน โดยระบุว่า ทางการตรวจหาเชื้อไวรัสอย่างไม่ครอบคลุมในช่วงแรกของการระบาด ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยไม่ได้รับการยืนยันว่าสาเหตุมาจากโรคโควิด-19
แม้จีนจะสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสในประเทศได้ แต่จีนกลับไม่พอใจต่อความพยายามสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัส และพยายามชี้แนะโดยไม่มีมูลว่า เชื้อโคโรนาไวรัสเริ่มระบาดมาจากแหล่งอื่น