สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศส รายงานว่า จนถึงขณะนี้ได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรโลกไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านเข็ม ทำให้เกิดความหวังเรื่องการควบคุมการระบาดในหลายประเทศ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดทั่วโลกในรอบหนึ่งวัน โดยเฉพาะในอินเดีย
เอเอฟพี ระบุว่า นับจนถึงสิ้นสุดวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วกว่า 1,002,938,540 เข็มใน 207 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ระดับ 893,000 คน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ โดย 1 ใน 3 ของจำนวนนี้อยู่ในอินเดีย
จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสะสมทั่วโลกแล้วกว่า 146.6 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 3.1 ล้านคน
เอเอฟพีชี้ว่า ขณะนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลกได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่หากเทียบสัดส่วนระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนายังพบว่าแตกต่างกันมาก กล่าวคือ ในขณะที่ประเทศรายได้สูงมีการฉีดวัคซีนให้ประชากรไปแล้วโดยเฉลี่ย 47% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ประเทศรายได้ต่ำกลับเพิ่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนของตนไปเพียง 0.2% เท่านั้น
ที่ยุโรป สหภาพยุโรปเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 70% ได้ภายในเดือนกรกฎาคม โดยรัฐบาลเบลเยียมเปิดเผยว่า ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิดของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) สำหรับผู้ใหญ่ทุกคนแล้ว และคาดว่าจะได้รับวัคซีนดังกล่าวเพิ่ม 1.4 ล้านโดสภายในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนในบางประเทศของยุโรปออกมาชุมนุมประท้วงมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รวมทั้งในกรุงเบอร์ลิน และกรุงลอนดอน เพื่อต่อต้านการบังคับสวมหน้ากาก การขยายเวลาปิดร้านค้าและธุรกิจบางประเภท ตลอดจนนโยบายวัคซีนพาสปอร์ตที่หลายคนบอกว่าไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิดด้วย