เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา World Wide Web ถือกำเนิดขึ้นมาครบ 25 ปีแล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า เรายังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมของความก้าวหน้าในการสื่อสารติดต่อนี้น้อยมาก
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1989 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ Tim Berners-Lee ทำงานวิจัยให้กับ European Organization for Nuclear Research หรือ CERN อยู่ที่ Switzerland
มีนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกไปทำงานวิจัยที่นี่ ปัญหาก็คือ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักวิจัยด้วยกัน ทำได้ไม่สะดวก เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ของแต่ละคนติดต่อสื่อสารกันไม่ได้ นักวิจัยชาวอังกฤษผู้นี้จึงมีความคิดว่า ถ้าหาทางให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้ ก็จะช่วยให้การส่งข้อมูลและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สะดวกมากขึ้น
Tim Berners-Lee และเพื่อนร่วมงานใช้เวลาราวๆ สองปี ก่อนจะสามารถเชื่อมคอมพิวเตอร์ server เข้ากับ web browser ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ และ World Wide Web ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1991
เวลานี้มีคนมากกว่า 1.7 พันล้านคนทั่วโลกที่ใช้บริการนี้ และ James Hendler ผู้อำนวยการของ Rensselaer Institute for Data Exploration and Applications ที่เมือง Troy ในรัฐ New York บอกว่า การเข้าถึงเว็บที่จะโตเร็วที่สุดจะเกิดขึ้นในเอเชีย และว่า ขณะนี้ หกในสิบเว็บไซต์ใหญ่ที่สุดของ social network อยู่ในประเทศจีน
เขาบอกว่า คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า Baidu บริการค้นหาของจีนใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก และว่าการเข้าถึงเว็บในอเมริกานั้น อยู่ระหว่าง 80 – 90% เพราะฉะนั้น อัตราการโตจะไม่สูง แต่จีนเข้าถึงเว็บเวลานี้ประมาณ 25% เท่านั้น และยังเป็นประเทศใหญ่มากด้วย อัตราการโตจึงจะสูงมาก รวมทั้งในประเทศต่างๆ ที่ยังเข้าไม่ถึงเว็บในขณะนี้
ส่วนอาจารย์ Paul Levinson ซึ่งสอนนิเทศศาสตร์และการศึกษาสื่อ อยู่ที่มหาวิทยาลัย Fordham ในนคร New York บอกว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ เช่น Arab Spring และขบวนการ Occupy Wall Street ทำให้รัฐบาลตามประเทศต่างๆ เริ่มตระหนักถึงอิทธิพลของเว็บในมือของประชาชน และบางรายพยายามจะควบคุมจำกัดการเข้าถึงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงเว็บได้
อาจารย์ Paul Levinson บอกว่า เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มี smart phones ซี่งเป็นการดีต่อประชาธิปไตย และการแสดงความคิดเห็น
ขณะเดียวกัน James Hendler บอกว่า เรายังใช้ประโยชน์จากเว็บน้อยมาก
เขาบอกว่า การได้เข้าใช้บริการทางเว็บ เป็นพลังที่ได้เปลี่ยนแปลงสังคมแล้วในหลายด้านด้วยกัน เราอาจจะเข้าใจฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ของคอมพิวเตอร์ แต่เรายังไม่เข้าใจผลกระทบของ World Wide Web ต่อสังคมกันเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาวิเคราะห์กันต่อไป
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1989 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ Tim Berners-Lee ทำงานวิจัยให้กับ European Organization for Nuclear Research หรือ CERN อยู่ที่ Switzerland
มีนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกไปทำงานวิจัยที่นี่ ปัญหาก็คือ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักวิจัยด้วยกัน ทำได้ไม่สะดวก เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ของแต่ละคนติดต่อสื่อสารกันไม่ได้ นักวิจัยชาวอังกฤษผู้นี้จึงมีความคิดว่า ถ้าหาทางให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้ ก็จะช่วยให้การส่งข้อมูลและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สะดวกมากขึ้น
Tim Berners-Lee และเพื่อนร่วมงานใช้เวลาราวๆ สองปี ก่อนจะสามารถเชื่อมคอมพิวเตอร์ server เข้ากับ web browser ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ และ World Wide Web ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1991
เวลานี้มีคนมากกว่า 1.7 พันล้านคนทั่วโลกที่ใช้บริการนี้ และ James Hendler ผู้อำนวยการของ Rensselaer Institute for Data Exploration and Applications ที่เมือง Troy ในรัฐ New York บอกว่า การเข้าถึงเว็บที่จะโตเร็วที่สุดจะเกิดขึ้นในเอเชีย และว่า ขณะนี้ หกในสิบเว็บไซต์ใหญ่ที่สุดของ social network อยู่ในประเทศจีน
เขาบอกว่า คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า Baidu บริการค้นหาของจีนใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก และว่าการเข้าถึงเว็บในอเมริกานั้น อยู่ระหว่าง 80 – 90% เพราะฉะนั้น อัตราการโตจะไม่สูง แต่จีนเข้าถึงเว็บเวลานี้ประมาณ 25% เท่านั้น และยังเป็นประเทศใหญ่มากด้วย อัตราการโตจึงจะสูงมาก รวมทั้งในประเทศต่างๆ ที่ยังเข้าไม่ถึงเว็บในขณะนี้
ส่วนอาจารย์ Paul Levinson ซึ่งสอนนิเทศศาสตร์และการศึกษาสื่อ อยู่ที่มหาวิทยาลัย Fordham ในนคร New York บอกว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ เช่น Arab Spring และขบวนการ Occupy Wall Street ทำให้รัฐบาลตามประเทศต่างๆ เริ่มตระหนักถึงอิทธิพลของเว็บในมือของประชาชน และบางรายพยายามจะควบคุมจำกัดการเข้าถึงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงเว็บได้
อาจารย์ Paul Levinson บอกว่า เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มี smart phones ซี่งเป็นการดีต่อประชาธิปไตย และการแสดงความคิดเห็น
ขณะเดียวกัน James Hendler บอกว่า เรายังใช้ประโยชน์จากเว็บน้อยมาก
เขาบอกว่า การได้เข้าใช้บริการทางเว็บ เป็นพลังที่ได้เปลี่ยนแปลงสังคมแล้วในหลายด้านด้วยกัน เราอาจจะเข้าใจฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ของคอมพิวเตอร์ แต่เรายังไม่เข้าใจผลกระทบของ World Wide Web ต่อสังคมกันเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาวิเคราะห์กันต่อไป