ในระดับทั่วโลก คนชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง เรื่องนี้เป็นจริงอย่างมากในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีข้อมูลเเสดงให้เห็นการกีดกันเด็กหญิงไม่ให้ได้รับการศึกษา และทำให้เด็กหญิงเสี่ยงต่อวิถีปฏิบัติที่เป็นอันตรายรูปแบบต่างๆ
รายงานเรื่อง The State of World Population พบว่ามีเด็กหญิงอายุ 10 ปีกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรเด็กหญิงวัยนี้ทั่วโลก 65 ล้านคน อาศัยใน 48 ประเทศที่ขาดความเท่าเทียมทางเพศมากที่สุด
รายงานชิ้นนี้ชี้ว่าเด็กหญิงเหล่านี้มีโอกาสน้อยกว่าเด็กผู้ชายที่จะได้รับการศึกษาและจำนวนมากถูกบังคับให้เเต่งงาน ถูกใช้เเรงงานเด็ก และถูกขลิบหญิง
Ramiz Alakbarov ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการแห่งกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า วัย 10 ขวบเป็นช่วงปีที่สำคัญมากสำหรับเด็กผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นที่ใดทั่วโลก เพราะกำลังใกล้เข้าสู่ช่วงวัยแตกสาว เขากล่าวว่าเด็กผู้หญิงคนใดคนหนึ่งที่กำลังเข้าสู่วัยเเตกสาวอาจจะถูกมองว่าเป็นสินค้าสามารถนำไปขายเเลกเป็นทรัพย์ได้
สำหรับเด็กหญิงหลายล้านคนทั่วโลก การเข้าสู่วัยเเตกสาวเป็นจุดเริ่มต้นของความยากจนตลอดชีวิต และการไม่ได้รับโอกาส ประตูสู่อนาคตสำหรับเด็กหญิงเหล่านี้ถูกปิดตาย เพราะชีวิตถูกกีดกันไม่ให้พัฒนาตามธรรมชาติและชีวิตถูกหันเหไปทางอื่น
Alakbarov กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ครึ่งหนึ่งของประชากรเด็กผู้หญิงวัย
10 ปีทั่วโลก อาศัยในภูมิภาคเอเชียเเปซิฟิกที่มีประชากรจำนวนมาก ตามมาด้วยในชาติแอฟริกาทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า
เขากล่าวว่าประเทศต่างๆ ในทั้งสองภูมิภาค สูญเสียโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต เพราะมีจำนวนเด็กผู้หญิงวัยเรียนต้องออกจากโรงเรียนจำนวนมาก ต้องออกเรือนและต้องมีบุตรตั้งเเต่อายุยังน้อย
เฉพาะอินเดียเพียงประเทศเดียว สูญเสียโอกาสทางรายได้ถึง $56,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี เพราะมีเด็กหญิงตั้งครรภ์ก่อนวัยอันสมควร และเด็กหญิงต้องลาออกจากโรงเรียนมัธยมจำนวนมาก และยังมีอัตราการไร้งานทำของกลุ่มหญิงสาวที่สูง
ในชาติแอฟริกาทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า มีเด็กผู้หญิง 55 เปอร์เซ็นต์ของเด็กทั้งหมดทั่วโลกที่ออกจากโรงเรียน และมีเด็กสาววัยผู้ใหญ่ตอนต้นที่ไม่ไปโรงเรียน ทั้งหมดนับเป็น 52 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมดทั่วโลก
เขากล่าวว่า หากสามารถยุติการเเต่งงานเด็กในไนเจอร์ได้สำเร็จประเทศเดียว เราจะสามารถเพิ่มผลดีทางเศรษฐกิจและทางการพัฒนาให้เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราว $25,000 ล้านจากตั้งเเต่ปี ค.ศ. 2014 ถึง 2030
รายงานของกองทุนประชากรโลกนี้ชี้ว่า ประเทศกำลังพัฒนาที่เอื้ออำนวยให้เด็กหญิงเรียนจบระดับมัธยมจะได้รับผลดีทางเศรษฐกิจถึงราวปีละ 21,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
(รายงานโดย Lisa Schlein / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว )