วิกฤตการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทำให้คนหลายสิบล้านทั่วโลกต้องปรับตัวและย้ายที่ทำงานมาเป็นที่บ้านเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
แต่ขณะที่หลายคนวุ่นอยู่แต่การรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตลอดเวลา บางคนเริ่มสงสัยว่า ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการที่ปกตินายจ้างดูแลให้
แกเบรียล เบตตันวิลล์ แห่ง สถาบัน NIBUD ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเงินครอบครัว บอกกับสำนักข่าว รอยเตอร์ส ว่า ทางสถาบันฯ ได้ประเมินและคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนที่เคยเป็นความรับผิดชอบของนายจ้างในช่วงปกติ แต่กลับมาเป็นภาระของลูกจ้างที่ทำงานจากบ้าน ซึ่งรวมถึง เครื่องดื่มชา-กาแฟ กระดาษชำระ ค่าน้ำ-ค่าไฟ และค่าเสื่อมของโต๊ะและเก้าอี้ทำงาน ออกมาที่ค่าเฉลี่ย 2.4 ดอลลาร์ ต่อวันทำงาน และนี่คือสิ่งที่นายจ้างควรจะรับผิดชอบให้ด้วย
แม้ว่าตัวเลขนี้จะดูน้อยนิดในช่วงเวลาที่ทั่วทั้งโลกยังเดือดร้อนเพราะการระบาดใหญ่ในรอบศตวรรษของโควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลายคนควรพึงระลึกถึง โดยเฉพาะเมื่อการทำงานจากบ้านอาจกลายมาเป็นเรื่องถาวรในอนาคต
ทั้งนี้ รัฐบาลในยุโรปเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นนี้และออกนโยบายรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือปกป้องสิทธิ์ของพนักงานบ้าง เช่น ที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งทางการได้จ่ายโบนัส “โควิด-19“ เป็นเงิน 363 ยูโร หรือประมาณ 427 ดอลลาร์ ให้ข้าราชการที่ต้องทำงานจากบ้านในช่วงที่มีการประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ ขณะที่ รัฐบาลสเปนออกกฎให้นายจ้างรับผิดชอบค่ารักษาดูแลอุปกรณ์ในการทำงานที่บ้านของพนักงาน และฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามนายจ้างส่งอีเมล์ถึงลูกจ้างหลังเวลาทำงานแล้ว
อย่างไรก็ดี นายจ้างบางรายไม่เห็นด้วยกับนโยบายเช่นนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจทรุดหนักเพราะวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ AWVN ซึ่งเป็นสมาคมนายจ้างในเนเธอร์แลนด์ มองว่า ตัวเลขที่ สถาบัน NIBUD คำนวณออกมานั้น ไม่ได้สะท้อนถึงสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างได้รับจากการย้ายไปทำงานที่บ้าน เช่น การที่ได้ประหยัดค่าเดินทาง เป็นต้น