ถนนสู่การศึกษาที่สูงขึ้นอาจจะเป็นเส้นทางที่ยาวไกล แต่คงมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ต้องเดินทางไกลเท่ากับ Dilafruz “Dilia” Samadova
เมื่อ Samadova อายุ 21 ปี เธอได้หนีจากการสมรสที่จัดขึ้นในประเทศทาจิกิสถาน ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของทวีปเอเชีย ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ รวมทั้งสถานทูตสหรัฐฯ การแต่งงานของเธอสิ้นสุดลงด้วยการหย่าร้าง และเธอได้รับวีซ่าทำงานในสหรัฐ ในระหว่างที่กำลังหาที่หลบภัย
กลุ่มศาสนาคาทอลิกในรัฐโอไฮโอได้ช่วยเหลือให้ Samadova สร้างชีวิตใหม่ โดยให้เธอเริ่มเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Walsh ที่เมืองนอร์ทแคนตัน รัฐโอไฮโอ
Samadova หญิงสาวอายุ 30 ปี เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการศึกษาปฐมวัย นอกจากการเรียนหนังสือแล้ว Samadova ยังทำงานไปด้วย โดยเป็นผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนคาทอลิก Our Lady of Peace ในเมืองแคนตัน รัฐโอไฮโอ และเธอยังเตรียมตัวสำหรับการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Walsh อีกด้วย
Samadova เติบโตขึ้นมาในครอบครัวมุสลิมที่มีกฎระเบียบที่เข้มงวด แต่เธอเข้าร่วมกับกลุ่มศาสนาคาทอลิกหลังจากย้ายมาอยู่ที่โอไฮโอเมื่อปีพ.ศ. 2554 และศาสนาของเธอก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอไม่สามารถกลับไปยังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเธอได้อีก
Samadova เล่าว่าทาจิกิสถานเป็นประเทศที่พ่อบ้านเป็นใหญ่ที่สุด แม่ของเธอและพี่สาวน้องสาวทั้งสี่คนมีชีวิตในแบบเดียวกัน คือไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น พ่อของเธอไม่อนุญาตให้ลูกๆ เข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ตัวเธอเองยังอยากเรียนหนังสืออยู่เสมอ
Samadova เข้าพิธีสมรสซึ่งจัดขึ้นเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอต้องหลบหนี แม้ว่าเธอพยายามที่จะใช้ชีวิตตามที่แม่บอก แต่ก็ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เธอพยายามที่จะฆ่าตัวตาย เธอกลัวที่จะกลับบ้าน แต่ก็คิดว่าพระเจ้าจะช่วยนำทางเธอได้
ภาษาพื้นเมืองของ Samadova คือภาษา Farsi เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยเมื่อเดินทางมาถึงนครนิวยอร์คเป็นแห่งแรก ทำให้เธอมีอาการ culture shock หรืออาการที่เกิดจากความไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรม
เมื่อแรกที่มาถึงโอไฮโอ Samadova ทำงานเป็นแม่บ้านของโรงแรม ภาษาอังกฤษที่เธอรู้มีเพียงคำว่าปลอกหมอน ผ้าห่ม เจ้านาย เธอเรียนรู้ด้วยตัวเองด้วยการซื้อโทรศัพท์ iPhone และฟังจากโทรทัศน์ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มงานที่สอง คือการทำความสะอาดบ้านให้กับ Mamie Kolar ซึ่งย้ายถิ่นฐานมาจากอิตาลีอิตาลี และเป็นผู้ที่สอนเธอเกี่ยวกับพระเยซู
Samadova เริ่มเข้าร่วมกับกลุ่มทำงานบริการทางศาสนาคาทอลิกของ Kolar และศึกษาศาสนาเป็นเวลาสองปีก่อนตัดสินใจที่จะเปลี่ยนศาสนาเป็นคาทอลิก Kolar เสียชีวิตในปีพ.ศ. 2557 แต่ลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอก็ยังคงให้ความช่วยเหลือ Samadova อยู่ต่อไป
จากนั้น Samadova เข้าเรียนที่วิทยาลัยชุมชน Terra State ในเมืองฟรีมอนต์รัฐโอไฮโอ เธอจบหลักสูตรการศึกษาสองปีในด้านการศึกษาปฐมวัย และเก็บหอมรอมริบมากพอที่จะซื้อรถคันแรกได้
Jerry Pellegrino เจ้าของศูนย์ดนตรี Pellegrino ใน Jackson Township ซึ่งได้ยินเรื่องราวของ Samadova จากการบอกเล่าในโบสถ์ เขาจึงเสนอมอบทุนการศึกษาแก่เธอในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Walsh ซึ่ง Samadova คิดว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเหลือเชื่อ แต่เธอก็ติดต่อไปยัง Jerry Pellegrino และเริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Walsh ในปีพ.ศ. 2560
Samadova กล่าวว่าเธออยากจะทำงานให้กับองค์กรอย่างเช่นสหประชาชาติ หรือหน่วยงานด้านสันติภาพในอนาคต และเธอยังต้องการช่วยเหลือให้เด็กผู้หญิงได้เรียนหนังสืออีกด้วย
ความหวังของ Samadova ก็คือการได้ช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้
