องค์การอนามัยโลกรายงานว่าเชื้อไวรัส Zika ระบาดไปยังกว่า 40 ประเทศใน 4 จาก 6 กลุ่มประเทศสมาชิกของ WHO และ WHO ย้ำด้วยว่ามาถึงขณะนี้พบทารกแรกเกิดที่มีกระโหลกศรีษะเล็กกว่าปกติเฉพาะใน Brazil กับ French Polynesia
สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส Zika มีความรุนแรงในบราซิล ซึ่งพบว่ามีทารกที่มีขนาดของกระโหลกศรีษะและขนาดสมองเล็กแล้ว 4,700 คน
WHO ยืนยันว่ามี 8 ประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส Zika และมีคนป่วยด้วยโรคทางระบบประสาท Guillain-Barre syndrome หลายกรณีด้วย
คุณ Bruce Aylward ผู้อำนวยการบริหารประจำฝ่ายการระบาดของโรคและเหตุฉุกเฉินทางสุขภาพของ WHO กล่าวว่ายังไม่สามารถได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของโรคทั้งสองอย่าง แต่มีข้อสงสัยเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาว่าเชื้อไวรัส Zika อาจจะเกี่ยวข้องกับทั้งสองโรค
คุณ Aylward กล่าวว่าผลการชันสูตรศพของทารกหลายคนที่มีขนาดกระโหลกศรีษะเล็กกว่าปกติ พบว่ามีเชื้อไวรัส Zika ในร่างกายของทารก และผลการตรวจชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากโรคทางระบบประสาท Guillain-Barre syndrome ก็พบว่ามีเชื้อไวรัส Zika ในร่างกายเช่นกัน
คุณ Aylward กล่าวว่าเขาเห็นด้วยที่ยึดหลักการที่ว่า จะถือว่าเชื้อไวรัส Zika เป็นต้นเหตุของโรคไปจนกว่าจะสามารถยืนยันได้แน่ชัด เนื่องจากจะมีผลกระทบรุนแรงจากเชื้อไวรัส Zika
ในขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกชี้ว่าการทำลายแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งแพร่พันธุ์ของยุงในชุมชน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Zika
WHO ยังเร่งเร้าให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตั้งท้อง ป้องกันยุงกัดด้วยการทายากันยุง สวมเสื้อผ้าที่คลุมแขนขามิดชิดเพื่อป้องกันยุงกัด นอนกางมุ้งหรือติดมุ้งลวดที่ประตูกับหน้าต่างเพื่อกันยุงเข้า
(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)