ในวันพฤหัสบดี ดร. มัตชิดิโซ โมเอติ ผู้อำนวยการภูมิภาคแอฟริกาขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือนถึงภัยของการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่สามในทวีปแอฟริกาว่า ภัยครั้งนี้ “เป็นของจริงและจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น”
ดร. โมเอติ ระบุว่า ในขณะที่หลายประเทศนอกทวีปแอฟริกาฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงแล้ว และอาจฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ ได้แล้วนั้น ประเทศในทวีปแอฟริกากลับฉีดวัคซีนโดสที่สองให้กลุ่มเสี่ยงไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอยังเรียกร้องให้ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ให้แจกจ่ายวัคซีนแก่ทวีปแอฟริกาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงในทวีปนี้
ผู้อพยพในอิตาลีอาจได้รับวัคซีนไม่ทั่วถึง
สื่อเดอะนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ผู้อพยพในอิตาลีไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 แม้รัฐบาลจะระบุว่า ทุกคนในอิตาลีมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนไม่ว่าจะมีสถานะใดทางกฎหมายก็ตาม
สื่อดังกล่าวยังรายงานด้วยว่า ประชาชนต้องใช้หมายเลขประกันสังคมเพื่อจองคิวรับวัคซีน อย่างไรก็ตาม มีเพียงสามภูมิภาคจากทั้งหมด 20 ภูมิภาคในอิตาลีเท่านั้น ที่รับรองหมายเลขประกันสังคมชั่วคราว แม้ว่าอิตาลีจะมีผู้อพยพหลายแสนคนก็ตาม
ดร. มาร์โก มาสเซตติ ประธานสมาคมการแพทย์ผู้อพยพอิตาลี กล่าวกับสื่อเดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า ผู้อพยพจำนวนมากทำงานรับใช้ในบ้าน ซึ่งหากอิตาลีไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสในกลุ่มคนเหล่านี้ได้ ก็จะไม่สามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้
อินเดียสั่งวัคซีนที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง 300 ล้านโดส
กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียเผยว่า ทางอินเดียได้สั่งวัคซีนที่ยังไม่ถูกรับรอง 300 ล้านโดส มูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์จากบริษัทไบโอโลจิคอล-อี (Biological-E.) ในเมืองไฮเดอาราบาด โดยขณะนี้ วัคซีนสูตรดังกล่าวอยู่ในระหว่างการทดลองทางคลีนิคขั้นที่สาม
ทั้งนี้ ศาลสูงของอินเดียวิจารณ์โครงการฉีดวัคซีนของอินเดียว่า ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงการฉีดวัคซีน
และในวันศุกร์ กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียระบุว่า พบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสใหม่ 132,364 คนในรอบ 24 ชั่วโมง และมีผู้เสียชีวิต 2,713 คน ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 28.5 ล้านคน มากเป็นลำดับสองรองจากสหรัฐฯ ที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 33 ล้านคน
อังกฤษเตรียมฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” ให้เด็กวัย 12-15 ปี
ทางด้านหน่วยงานกำกับดูแลของอังกฤษก็ได้อนุมัติให้ประชาชนวัย 12-15 ปี รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ได้ โดยทางหน่วยงานระบุว่า ผลการทดลองวัคซีนในเด็ก 2,000 คน เป็นไปในทางที่ดี อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอการอนุมัติจากคณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันก่อน ถึงจะสามารถเดินหน้าฉีดวัคซีนให้เด็กๆ ในช่วงอายุดังกล่าวได้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้อนุมัติให้เด็กๆ ในช่วงอายุดังกล่าวให้รับวัคซีนของไฟเซอร์ได้แล้ว ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีมีแผนฉีดวัคซีนให้เด็กๆ กลุ่มดังกล่าวภายในเดือนนี้