เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าอีกไม่นานโรคพยาธิกินีอาจจะกลายเป็นโรคอันดับที่สองที่หมดไปจากโลกต่อจากโรคฝีดาษ หลังจากพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างมากตั้งแต่ 32 ปีก่อน ในตอนนั้นพบว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ถึง 3 ล้าน 5 แสนคนใน 20 ประเทศทั่วทวีปเอเชียและอาฟริกา
ปัจจุบันพบโรคพยาธิกินีระบาดในประเทศมาลี เอธิโอเปีย ช้าดและซูดานใต้ที่เป็นประเทศเอกราชใหม่ในอาฟริกา ด็อกเตอร์ Gaitam Biswas หัวหน้าทีมงานในโครงการปราบโรคพยาธิกินีให้หมดไปจากโลกกล่าวว่าผู้ป่วยโรคนี้เกือบทั้งหมดอยู่ในประเทศซูดานใต้
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าขณะนี้ทางโครงการกำลังพยายามหยุดยั้งการติดต่อของโรคให้เร็วที่สุดก่อนจะรับรองได้ว่าไม่มีโรคนี้หลงเหลืออยู่ในโลก และเมื่อถึงตอนนั้น โรคพยาธิกินีจะกลายเป็นโรคที่เกิดจากตัวพยาธิโรคแรกที่ถูกปราบให้หายไปจากโลกโดยไม่มีการใช้ยาหรือวัคซีน
เชื้อพยาธิกินีเข้าสู่ร่างกายคนผ่านการดื่มน้ำที่มีไข่พยาธิปนเปื้อน ตัวพยาธิมีลักษณะเหมือนเส้นด้ายเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวเกือบเมตรและอาจจะโผล่ตัวออกมาจากใต้ผิวหนังของผู้ป่วย แม้ไม่ทำให้เสียชีวิต ผู้ป่วยไม่สามารถออกไปทำงานได้นานเป็นเดือนๆ ทำให้ขาดรายได้ มีผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจแก่ครอบครัวและชุมชน ผู้ป่วยเด็กต้องขาดเรียน
โรคพยาธิกินี ต่างจากโรคฝีดาษและโปลิโอตรงที่ไม่มีทั้งยารักษาและวัคซีนป้องกัน ด็อกเตอร์ Gaitam Biswas หัวหน้าทีมงานในโครงการปราบโรคพยาธิกินี บอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า หัวใจสำคัญของการกำจัดโรคนี้ให้หมดไปคือการตรวจหาผู้ป่วยที่มีเชื้อพยาิธินี้ให้ได้แล้วทำการควบคุมให้แพร่เชื้อต่อ
เขาบอกว่าสำคัญมากที่คนมีน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ การจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดยังเป็นการควบคุมการแพร่เชื้อ เป็นการส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ด็อกเตอร์บิสวอสกล่าวว่าหลักแหล่งที่อยู่อาศัยที่ห่างไกลเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการตรวจหาผู้ติดเชื้อพยาธิกินี ผู้คนในอาฟริกามักเคลื่อนย้ายถิ่นฐานบ่อยทำให้ไม่ได้รับการบริการทางสาธารณสุข ประเทศซูดานใต้ประสบปัญหานี้มากที่สุดเพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ อยู่ห่างห่างไกลความเจริญ การเดินทางลำบากทำให้การตรวจหาผู้ป่วยทำได้ยาก
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกชี้ว่าการเสาะหาตัวผู้ป่วยพยาิธิกินีรายที่เหลือให้พบและควบคุมไม่ให้เเพร่กระจายโรคต่อเป็นขั้นตอนที่ยากมากที่สุดของกระบวนการกำจัดโรค เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดในพื้นที่ห่างไกลและเดินทางเข้าไปไม่ถึง
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานปิดท้ายว่าองค์การอนามัยโลกจะสามารถรับรองว่าโรคพยาธิกินีได้สูญไปจากโลกได้ ก็ต่อเมื่อไม่มีการแพร่ระบาดของโรคพยาธิชนิดนี้ในประเทศต่างๆนานติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี
ปัจจุบันพบโรคพยาธิกินีระบาดในประเทศมาลี เอธิโอเปีย ช้าดและซูดานใต้ที่เป็นประเทศเอกราชใหม่ในอาฟริกา ด็อกเตอร์ Gaitam Biswas หัวหน้าทีมงานในโครงการปราบโรคพยาธิกินีให้หมดไปจากโลกกล่าวว่าผู้ป่วยโรคนี้เกือบทั้งหมดอยู่ในประเทศซูดานใต้
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าขณะนี้ทางโครงการกำลังพยายามหยุดยั้งการติดต่อของโรคให้เร็วที่สุดก่อนจะรับรองได้ว่าไม่มีโรคนี้หลงเหลืออยู่ในโลก และเมื่อถึงตอนนั้น โรคพยาธิกินีจะกลายเป็นโรคที่เกิดจากตัวพยาธิโรคแรกที่ถูกปราบให้หายไปจากโลกโดยไม่มีการใช้ยาหรือวัคซีน
เชื้อพยาธิกินีเข้าสู่ร่างกายคนผ่านการดื่มน้ำที่มีไข่พยาธิปนเปื้อน ตัวพยาธิมีลักษณะเหมือนเส้นด้ายเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวเกือบเมตรและอาจจะโผล่ตัวออกมาจากใต้ผิวหนังของผู้ป่วย แม้ไม่ทำให้เสียชีวิต ผู้ป่วยไม่สามารถออกไปทำงานได้นานเป็นเดือนๆ ทำให้ขาดรายได้ มีผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจแก่ครอบครัวและชุมชน ผู้ป่วยเด็กต้องขาดเรียน
โรคพยาธิกินี ต่างจากโรคฝีดาษและโปลิโอตรงที่ไม่มีทั้งยารักษาและวัคซีนป้องกัน ด็อกเตอร์ Gaitam Biswas หัวหน้าทีมงานในโครงการปราบโรคพยาธิกินี บอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า หัวใจสำคัญของการกำจัดโรคนี้ให้หมดไปคือการตรวจหาผู้ป่วยที่มีเชื้อพยาิธินี้ให้ได้แล้วทำการควบคุมให้แพร่เชื้อต่อ
เขาบอกว่าสำคัญมากที่คนมีน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ การจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดยังเป็นการควบคุมการแพร่เชื้อ เป็นการส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ด็อกเตอร์บิสวอสกล่าวว่าหลักแหล่งที่อยู่อาศัยที่ห่างไกลเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการตรวจหาผู้ติดเชื้อพยาธิกินี ผู้คนในอาฟริกามักเคลื่อนย้ายถิ่นฐานบ่อยทำให้ไม่ได้รับการบริการทางสาธารณสุข ประเทศซูดานใต้ประสบปัญหานี้มากที่สุดเพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ อยู่ห่างห่างไกลความเจริญ การเดินทางลำบากทำให้การตรวจหาผู้ป่วยทำได้ยาก
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกชี้ว่าการเสาะหาตัวผู้ป่วยพยาิธิกินีรายที่เหลือให้พบและควบคุมไม่ให้เเพร่กระจายโรคต่อเป็นขั้นตอนที่ยากมากที่สุดของกระบวนการกำจัดโรค เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดในพื้นที่ห่างไกลและเดินทางเข้าไปไม่ถึง
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานปิดท้ายว่าองค์การอนามัยโลกจะสามารถรับรองว่าโรคพยาธิกินีได้สูญไปจากโลกได้ ก็ต่อเมื่อไม่มีการแพร่ระบาดของโรคพยาธิชนิดนี้ในประเทศต่างๆนานติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี