องค์การอนามัยโลก ยินดีต่อการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิดของทางการจีน ระบุว่า “เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนเมื่อประชาชนกำลังทุกข์ทรมาน” ตามรายงานของเอพี
ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉินของ WHO กล่าวในวันศุกร์ว่า ทางองค์การอนามัยโลกยินดีที่จีน “ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ (รับมือโควิด) ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน” ในความพยายามปรับแผนรับมือการระบาดของโควิด-19
ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉินของ WHO กล่าวด้วยว่า “เราทุกคนต่างต้องรับมือกับมาตรการจำกัดการเดินทาง เราต่างต้องเผชิญกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป และเป็นสิ่งที่เหนื่อยล้าอย่างยิ่ง” ก่อนหน้านี้ อนามัยโลก ระบุว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ เป็นสิ่งที่ “ไม่ยั่งยืน” และว่าโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วอย่างมากทำให้การหยุดยั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ให้เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ทาง WHO ระบุว่า การใช้วัคซีน mRNA จากต่างประเทศ อย่างไฟเซอร์ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา อาจเป็น “ทางเลือกที่เป็นรูปธรรม” ของจีนในการเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน จากที่วัคซีนที่ผลิตในจีนมีประสิทธิผลน้อยกว่าและการป้องกันอาจลดทอนไปในการรับมือกับโควิดโอมิครอน ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ในอนาคตของจีนนั้น ควรสร้างสมดุลระหว่าง “การควบคุมไวรัสกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และสิทธิมนุษยชนของชาวจีน”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวจีนลุกฮือประท้วงมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในหลายเมืองใหญ่ของจีน นับเป็นอารยะขัดขืนครั้งใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อทศวรรษก่อน และเกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงที่มีการขยายตัวลดลงมากกว่าในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาด้วย
อย่างไรก็ตาม ทัศนะของอนามัยโลกเมื่อวันศุกร์ ไม่ได้กล่าวถึงการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศจีนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส กล่าวว่า 90% ของประชากรทั่วโลกมีภูมิคุ้มกันต่อโคโรนาไวรัส โควิด-19 ผ่านการติดเชื้อหรือการเข้ารับวัคซีน และทั่วโลกขยับเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของการระบาดใหญ่แล้ว
- ที่มา: เอพี