ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สำรวจเส้นทาง 'เจ ดี เเวนซ์' จากผู้ปฏิเสธทรัมป์ มาสู่ขุนพลข้างกายในการเลือกตั้ง


อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ สว. เจ ดี เเวนซ์ ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน 15 ก.ค. 2024
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ สว. เจ ดี เเวนซ์ ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน 15 ก.ค. 2024

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศที่การประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน เมื่อวันจันทร์ว่า เขาได้เลือกสว. เจ ดี เเวนซ์ แห่งรัฐโอไฮโอให้เป็นผู้สมัครเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเขา

สว.วัย 39 ปี ผู้นี้เป็นวุฒิสมาชิกสมัยเเรกที่ครั้งหนึ่งเคยวิจารณ์ทรัมป์ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักประวัติของเขา ก่อนที่จะกลายมาเป็นขุนพลข้างกายอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน

สว.เเวนซ์ เกิดและโตที่เมืองมิดเดิลทาวน์ รัฐโอไฮโอ และเคยเป็นทหารอเมริกันในเหล่านาวิกโยธิน ที่ร่วมสงครามในอิรัก จากนั้นเขาจบมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท และได้ปริญญาสาขากฎหมายจากมหาวิทยาลัยเยล

นอกจากนั้นแวนซ์เคยทำงานในซิลิคอนเเวลีย์ ศูนย์กลางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยเขาอยู่สายการลงทุน ในฐานะ Venture Capitalist

เเวนซ์ เริ่มเป็นที่รู้จักจากงานเขียนเกี่ยวกับชีวิตตนเองจากหนังสือ "Hillbilly Elegy" ซึ่งเป็นผลงานขายดีปี 2016 ติดอันดับ ในปีนั้นเองทรัมป์กำลังหาเสียงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

Books Hillbilly Elegy
Books Hillbilly Elegy

หนังสือเล่มนั้นเองช่วยทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเหตุใดนักธุรกิจเจนสังเวียนจากนิวยอร์กจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนอเมริกันที่อยู่ตอนกลางของประเทศ โดยเฉพาะคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เช่นคนงานภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งคนในเขตชนบทของสหรัฐฯ

งานเขียนเล่มนี้ยังเป็นที่ถูกใจโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และช่วยสร้างมิตรภาพระหว่างเเวนซ์ กับทรัมป์ จูเนียร์โดยทั้งยังยังเป็นเพื่อนกันในปัจจุบัน

หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเป็นผู้นำสหรัฐฯ เเวนซ์กลับมาที่รัฐโอไฮโอ เพื่อตั้งมูลนิธิเพื่อต่อสู้กับสารเสพติดโอปิออยด์

เขามักมีงานพูดตามที่สาธารณะเเละได้รับเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ Republican Lincoln Day เรื่องราวที่เเม่ของเเวนซ์ติดยาเสพติดสามารถสร้างอารมณ์ร่วมต่อผู้ร่วมงานได้อย่างดี

เเวนซ์เริ่มเตรียมการลงสนามการเมืองในปี 2021 เมื่อมีตำแหน่งสว.ว่างลงในรัฐโอไฮโอ

อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศให้การสนับสนุนเเวนซ์ในการเลือกตั้งครั้งนั้น ทั้งในศึกคัดตัวแทนจากพรรครีพับลิกันและในสนามใหญ่ที่ชี้ขาดผลผู้ชนะเป็นวุฒิสมาชิก

แต่ก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2016 เเวนซ์ คือหนึ่งในสมาชิกพรรครีพับลิกันที่อยู่กลุ่มที่ปฏิเสธโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่าทรัมป์ "อันตราย" และ "ไม่เหมาะสม" กับตำแหน่งประธานาธิบดี

ภรรยาของเขา อูชา ชิลูคูริ เเวนซ์ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย และมีลูกด้วยกันของเเวนซ์รวมสามคน

สว. เจ ดี แวนซ์และภริยา อูชา ชิลูคูริ เเวนซ์
สว. เจ ดี แวนซ์และภริยา อูชา ชิลูคูริ เเวนซ์

เจ ดี แวนซ์เคยวิจารณ์ทรัมป์เเละถึงกับเปรียบเทียบเขาว่าเป็น "ฮิตเลอร์ของอเมริกา"

แวนซ์เริ่มมาสนับสนุนทรัมป์ หลังจากที่ทั้งสองพบกันในปี 2021 เเวนซ์กล่าวว่าความสำเร็จของทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีคือปัจจัยที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ

และทั้งคู่ไม่ได้ติดใจเรื่องอดีตที่เเวนซ์เคยตำหนิทรัมป์รุนเเรง

ตั้งเเต่เเวนซ์ชนะเลือกตั้งเป็นสว. เขาก็เป็นมิตรทางการเมืองของทรัมป์ที่ช่วยปกป้องและแก้ตัวให้ทรัมป์ทั้งเรื่องนโยบายและพฤติกรรมของอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้

เควิน โรเบิร์ตส์ ประธานขององค์กรอนุรักษ์นิยม Heritage Foundation กล่าวว่า สว.เเวนซ์ เป็นตัวเเทนระดับแกนนำของการเคลื่อนสังคมไปในเเนวทางอนุรักษ์นิยม ทั้งการการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม

ฝ่ายเดโมเเครต กล่าวว่าเเวนซ์ เป็นผู้มีความคิดสุดโต่ง โดยยกตัวอย่างจากการที่เเวนซ์เคยส่งสัญญาณสนับสนุนการห้ามทำแท้งระดับประเทศ สำหรับสตรีที่ตั้งท้อง 15 สัปดาห์ ระหว่างการเลือกตั้งสว.ของเขา แต่จากนั้นเเวนซ์ผ่อนจุดยืนลงมา เมื่อชาวรัฐโอไฮโอโหวตสนับสนุนสิทธิการทำแท้งอย่างท่วมท้น

ในเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 เเวนซ์กล่าวว่า หากเขาทำหน้าที่เป็นรองประธานาธิบดีในขณะนั้น ตนจะไม่รับรองผลการเลือกตั้งโดยทันที และบอกว่าความเคลือบเเคลงใจในผลการเลือกตั้งของทรัมป์นั้น "มีความชอบธรรม"

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบทั้งจากรัฐและองค์กรภายนอก ไม่พบการโกงการเลือกตั้งที่จะทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยน ซึ่งในครั้งนั้นทรัมป์แพ้ต่อโจ ไบเดน

สำหรับการทำงานในวุฒิสภาของเเวนซ์ มีบางครั้งที่เขาทำงานร่วมกับฝั่งเดโมเเครตได้ เช่นในการเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับการเดินทางโดยรถไฟ และเรื่องการเพิ่มงบประมาณสำหรับการดูเเลเขตทะเลสาบ Great Lakes

สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างเเหล่งข่าวที่ทราบถึงกระบวนการพิจารณาคุณสมบัติของเเวนซ์ในตำแหน่งเเคนดิเดทรองประธานาธิบดี ที่ระบุว่าเขาน่าจะมีทักษะการดีเบทที่ดี ทั้งยังสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ของทรัมป์ได้อย่างกระจ่าง รวมทั้งน่าจะช่วยระดมทุนอย่างได้ผลด้วย

ชาร์ลีย์ เคิร์ค ผู้ก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์นิยม Turning Point USA กล่าวว่า สว.ผู้นี้สามารถสื่อสารมุมมองเรื่อง 'อเมริกา มาก่อน' หรือ 'America First' ที่คิดถึงผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งจุดเเข็งนี้อาจช่วยทรัมป์ได้ในรัฐที่เขาเเพ้อย่างเฉียดฉิวในการเลือกตั้งปี 2020 เช่น มิชิแกน และวิสคอนซิน ที่มีความคล้ายกับโอไฮโอ ด้านเศรษฐกิจ กลุ่มประชากร และค่านิยมทางสังคม

  • ที่มา: เอพี

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG