เมื่อพูดถึงฉลามขาวยักษ์ มันคือเพชรฆาตและเป็นผู้ควบคุมประชากรสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมของท้องทะเลในแอฟริกาใต้
แต่วันนี้ฉลามขาวยักษ์ถูกบรรจุอยู่ในรายการของสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือ IUCN หลังจากจำนวนประชากรฉลามขาวยักษ์ที่ลดน้อยถอยลงทุกปี
นักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามายังท้องทะเลในแอฟริกาใต้ หลังจากทุ่มเงินมหาศาลสำหรับทริปชมฉลามขาวยักษ์ เพชรฆาตแห่งท้องทะเลที่นี่ทุกปี แต่เฮนริค ดู เพลสซิส ผู้ดูแลจัดการทัวร์ฉลามขาวยักษ์ เริ่มกังวลแล้วว่าธุรกิจนี้อาจมีความเสี่ยง ตามปริมาณฉลามที่ร่อยหรอลงทุกปี
เฮนริค บอกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เคยเห็นฉลามยักษ์แหวกว่ายในพื้นที่ครั้งละ 6-7 ตัว เวลาพาลูกทัวร์มาล่องเรือเที่ยวชม แต่ทุกวันนี้ถ้าได้เห็นฉลามมากพร้อมกัน 3-4 ตัวก็ถือว่าโชคดีมากๆ แล้ว
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากนักวิจัยฉลาม จากมหาวิทยาลัยสเตลเลนบอสช์ ผู้ศึกษาจำนวนประชากรฉลามขาวยักษ์มาถึง 8 ปี ผ่านฐานข้อมูล identifin ซึ่งบันทึกลักษณะของครีบหลังฉลามแต่ละตัวที่บันทึกภาพไว้ เพราะครีบหลังเปรียบเสมือนลายนิ้วมือของฉลามแต่ละตัว ที่ทำให้ทีมวิจัยสามารถระบุอัตลักษณ์ของฉลาม
และพบว่าข้อมูลฉลามที่สะสมมาร่วม 8 ปีนั้นน่ากังวลขึ้นเรื่อยๆ
ดร. ซาร่า อังเดรอ็อตตี หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า แอฟริกาใต้ที่ถือเป็นเมืองหลวงของฉลามขาวยักษ์ กลับพบการลดลงของประชากรฉลามอย่างรวดเร็ว ทั้งที่คาดว่าน่าจะมีฉลามหลายพันตัว แต่ปัจจุบันกลับพบเพียงแค่ระดับ 300-500 ตัวในน่านน้ำเท่านั้น
ขณะที่ทีมวิจัยมหาสมุทร ดีแลน อิริออน บอกว่า ข้อมูลการลดลงของประชากรฉลามยักษ์อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะหลังจากประสานกับทางการท้องถิ่นของแอฟริกาใต้ และพบว่าการเก็บข้อมูลผ่านการถ่ายภาพฉลามในน่านน้ำอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากธรรมชาติของฉลามขาวยักษ์ที่โตเต็มวัยนั้น มักอยู่ไกลจากจุดล่องเรือท่องเที่ยวที่ผู้คนพลุกพล่าน
แม้ว่าการศึกษาจำนวนประชากรฉลามขาวยักษ์รอบใหม่นี้ อาจเป็นความหวังใหม่ของฉลามขาวยักษ์อีกครั้ง แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่านักล่าแห่งท้องทะเลแอฟริกาใต้สายพันธุ์นี้กำลังหายไปจากท้องทะเลและต้องการการอนุรักษ์มากขึ้น