ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ทำเนียบขาวเผย สหรัฐฯ กำลังหา 'แนวทางใหม่' รับมือจีน


(FILES) This file photo taken on June 4, 2019 shows the Chinese flag behind razor wire at a housing compound in Yangisar, south of Kashgar, in China's western Xinjiang region.
(FILES) This file photo taken on June 4, 2019 shows the Chinese flag behind razor wire at a housing compound in Yangisar, south of Kashgar, in China's western Xinjiang region.

ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ กำลังหา “แนวทางใหม่” ในการเดินหน้าความสัมพันธ์กับจีนในขณะที่ทั้งสองประเทศยังคงเป็น “คู่แข่งขันทางยุทธศาสตร์” อย่างตึงเครียด

เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จีนใช้นโยบายอำนาจนิยมในประเทศมากขึ้น รวมถึงใช้นโยบายรุกรานในต่างประเทศมากขึ้น และขณะนี้จีน “ท้าทาย” ความมั่นคง ความมั่งคั่ง และคุณค่าของสหรัฐฯ จนสหรัฐฯ ต้องใช้แนวทางใหม่กับจีน

ท่าทีจากทำเนียบขาวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในการประชุม World Economic Forum ผ่านทางวิดีโอ ผู้นำจีนเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ให้ความร่วมมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและด้านสาธารณสุข โดยระบุว่า การควบคุมการระบาดของโควิด-19 เป็นภารกิจที่เร่งด่วนที่สุดของประชาคมโลก

ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ผู้นำจีนยังเตือนถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยไม่เอ่ยถึงชื่อสหรัฐฯ หลังจากที่ทีมนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมเดินหน้าพร้อมประเทศพันธมิตร รับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น การปกป้องประชาธิปไตย ไปจนถึงการแข่งขันกับจีนและประเทศอำนาจนิยมอื่นๆ ที่เพิ่มมากขึ้น

This video grab taken on Jan. 25, 2021, from the website of the World Economic Forum shows China's President Xi Jinping speaking from Pekin as he opens an all-virtual World Economic Forum, which usually takes place in Davos, Switzerland.
This video grab taken on Jan. 25, 2021, from the website of the World Economic Forum shows China's President Xi Jinping speaking from Pekin as he opens an all-virtual World Economic Forum, which usually takes place in Davos, Switzerland.

ประธานาธิบดีสี กล่าวในการประชุมทางไกลว่า “โลกที่แบ่งแยกไม่สามารถรับมือกับความท้าทายที่มนุษยชาติเผชิญหน้าร่วมกันได้ และการเผชิญหน้าจะทำให้มนุษยชาติพบกับทางตัน”

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ทั้งสองอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบหลายสิบปี โดยทั้งจีนและสหรัฐฯ มีประเด็นกันในเรื่องสงครามการค้า เทคโนโลยี 5จี สิทธิมนุษยชน และความมั่นคงในภูมิภาค

สหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนพยายามขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการจารกรรมทางอุตสาหกรรมมาหลายปี โดยรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ กำลังทบทวนการตัดบริษัทโทรคมนาคมจีนสามบริษัท ออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในขณะนั้น ประกาศว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีส่วนร่วมกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทบทวนนโยบายและมาตรการลงโทษจีน

และเมื่อวันจันทร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับวีโอเอว่า ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ อย่างครอบคลุม จะรวมถึงการให้จีนรับผิดชอบการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและผิดกฎหมาย และ “สร้างความมั่นใจว่า เทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะไม่เสริมกำลังกองทัพจีนหรือช่วยให้จีนละเมิดสิทธิมนุษยชน”

ทางด้านสถานทูตจีนในสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนหวังว่าสหรัฐฯ จะมี “เจตนาไม่ปรารถนาความขัดแย้ง การเผชิญหน้า เคารพซึ่งกันและกัน และการร่วมมือแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน” เพื่อรับมือกับความแตกต่างของทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ มีท่าทีชัดเจนต่อจีน โดยโฆษกทำเนียบขาวระบุเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ กำลังแข่งขันกับจีนอย่างตึงเครียด เนื่องจากจีนมีส่วนร่วมกับการกระทำที่ส่งผลเสียต่อแรงงานอเมริกัน ความสามารถทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และ “คุกคามพันธมิตรของสหรัฐฯ และอิทธิผลของสหรัฐฯ ในองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ”

XS
SM
MD
LG