หลังจากสหรัฐฯ ใช้เวลาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลลาห์ ในที่สุดรัฐบาลวอชิงตันก็เปลี่ยนท่าทีเป็นการปล่อยให้ความขัดแย้งในเลบานอนดำเนินไปก่อน
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ และฝรั่งเศสเรียกร้องให้เกิดการหยุดยิง 21 วันเพื่อชะลอการรุกรานของอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ หลังกองทัพเทลอาวีฟสังหารฮัสซาน นาซรัลลาห์ หัวหน้ากลุ่มเฮซบอลลาห์ได้ในปลายเดือนกันยายน ซึ่งตามมาด้วยการบุกภาคพื้นดินและการโจมตีทางอากาศที่คร่าสมาชิกระดับนำของกลุ่มดังกล่าวอีกหลายคน
ในจังหวะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็หยุดเรียกร้องให้มีการหยุดยิง สะท้อนจากการแถลงข่าวของแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า “เราสนับสนุนให้อิสราเอลเดินหน้าการรุกรานเหล่านี้ เพื่อลดทอนโครงสร้างพื้นฐานของเฮซบอลลาห์ เพื่อให้พวกเราสามารถบรรลุข้อสรุปในทางการทูตได้ในท้ายที่สุด”
นักวิเคราะห์มอง สหรัฐฯ หาโอกาสจากภาวะจำยอม
การโจมตีเลบานอนของอิสราเอลเป็นประโยชน์กับสหรัฐฯ สองด้าน ประการแรกคือการลดทอนกำลังของกลุ่มเฮซบอลลาห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ทรงอำนาจที่สุดที่อิหร่านสนับสนุน ประการที่สองคือการลดอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาค ซึ่งจะลดระดับภัยคุกคามทั้งต่ออิสราเอลและกองกำลังสหรัฐฯ ในพื้นที่
กระนั้น การที่สหรัฐฯ สนับสนุนการโจมตีของอิสราเอลก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
จอน อัลเทอร์แมน อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มองว่ากรุงวอชิงตันต้องพินิจพิจารณาถึงสมดุลระหว่างการทอนกำลังกลุ่มเฮซบอลลาห์ กับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสุญญากาศในเลบานอน หรือกระตุ้นสงครามลุกลามไปในระดับภูมิภาค
แอรอน เดวิด มิลเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ด้านการเจรจาในตะวันออกกลางของสหรัฐฯ กล่าวว่ารัฐบาลของโจ ไบเดน มองแล้วว่าคาดหวังกับการเรียกร้องให้อิสราเอลยับยั้งชั่งใจได้น้อย แต่ก็มองเห็นผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นหากอิสราเอลเดินหน้าบุกเลบานอน
มิลเลอร์กล่าวว่า สหรัฐฯ พยายามหาโอกาสในภาวะจำยอมเช่นนี้ ในขณะเดียวกันก็เก็บแต้มต่อเอาไว้ใช้ห้ามปรามอิสราเอลไม่ให้ตอบโต้อิหร่านที่ระดมยิงจรวดใส่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แหล่งข่าวจากยุโรปที่มีข้อมูลกล่าวกับรอยเตอร์ว่ายังคงไม่มีการเจรจาหยุดยิงที่มีนัยสำคัญ และอิสราเอลอาจจะเดินหน้าปฏิบัติการในเลบานอนเป็นหลักหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ สองรายก็มองเรื่องกรอบเวลาไปในทางเดียวกัน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวในช่วงสัปดาห์นี้ว่าจะผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติจัดส่งกองกำลังพิทักษ์สันติภาพของสหประชาชาติ (UNIFIL) ไปประจำการที่ชายแดนภาคใต้ของเลบานอน เพื่อช่วยเหลือกองทัพเลบานอนในการสร้างเขตปลอดอาวุธของคู่ขัดแย้งในจุดแดนต่อแดนกับอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อกังวลหลายประการภายใต้สถานการณ์ที่ดำเนินอยู่ เช่นความเสี่ยงที่อิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดจากอิหร่าน การลุกลามของสงครามที่อาจดึงสหรัฐฯ เข้าไปมีส่วนร่วม รวมถึงความหวาดกลัวที่เลบานอนจะเผชิญกับการทำลายล้างอย่างที่อิสราเอลทำกับฉนวนกาซ่า
ตลอดหนึ่งปีที่อิสราเอลบุกกาซ่าเพื่อตอบโต้การโจมตีสายฟ้าแลบของกลุ่มฮามาส ได้คร่าชีวิตคนไปเกือบ 42,000 คน อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่บริหารงานโดยฮามาส
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันได้เตือนอิสราเอลอย่างเปิดเผยว่าการรุกรานเลบานอน ไม่ควรดำเนินไปในลักษณะเดียวกันกับที่เคยทำในกาซ่า
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น