ประชาชนในกรุงปักกิ่งไม่จำเป็นต้องใช้ผลตรวจโควิดเป็นลบเพื่อเข้าร้านค้า สำนักงาน สนามบิน และสวนสาธารณะ ขณะที่จีนผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์อันเข้มงวด หลังประชาชนแสดงอารยะขัดขืนในหลายเมืองทั่วจีนเมื่อเดือนที่แล้ว โดยจีนอาจผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมอีกหลังจากนี้
ชาวจีนหลายพันคนในกว่า 20 เมืองทั่วจีนเดินประท้วงตามท้องถนนตั้งแต่วันที่ 25พฤศจิกายน เนื่องจากไม่พอใจการล็อคดาวน์เป็นเวลานาน นโยบายตรวจโควิด และข้อจำกัดต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการแสดงความไม่พอใจของสาธารณชนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปีของจีน
ขณะที่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายโควิดของรัฐบาล แต่ผู้ประท้วงบางส่วนก็เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลจีนเห็นว่าการแสดงออกดังกล่าวเป็นบ่อนทำลายชาติ
แม้รัฐบาลจีนจะไม่ได้เอ่ยถึงผู้ประท้วงโดยตรง แต่ก็ระบุถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดเพียงไม่กี่วันหลังมีการประท้วงขึ้น
การชูกระดาษเปล่า
คลิปวิดีโอจากผู้ประท้วงทั่วจีน เผยให้เห็นผู้ประท้วงชูกระดาษเปล่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงการขัดขืน และเป็นเทคนิคหลบเลี่ยงการถูกปิดกั้นและดำเนินคดี
หยาง เจี้ยนลี่ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และผู้ก่อตั้งองค์กร Initiatives for China กล่าวกับวีโอเอว่า ภายใต้แรงกดดันทางการเมืองที่สูงนั้น ผู้คนสามารถเข้าใจกันได้แม้จะไม่ต้องพูดอะไรก็ตาม โดยการแสดงออกผ่านทางกระดาษขาวนั้น ทั้งสื่อความหมายได้ดีและกระจายสารได้อย่างรวดเร็ว โดยมีต้นทุนและความเสี่ยงต่ำ ทำให้ผู้ประท้วงจำนวนมากเลือกใช้วิธีนี้
ทางด้านเพอร์รี ลิงค์ ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และศาสตราจารย์พิศิษฐ์ด้านวรรณกรรมเปรียบเทียบ มหาวิทยาลันแคลิฟอร์เนีย ริเวอร์ไซด์ ระบุว่า กระดาษเปล่านี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของผู้ประท้วง ตั้งแต่มาตรการควบคุมโควิดไปจนถึงการเรียกร้องให้ผู้นำจีนลาออก
ลิงค์ระบุว่า การแสดงออกผ่านทางกระดาษเปล่านี้เป็นการป้องกันตนเองที่ดี เนื่องจากผู้ประท้วงสามารถปฏิเสธได้ว่า พวกเขาไม่ได้พูดถึงรัฐบาลในทางลบ แต่ในขณะเดียวกัน กระดาษเปล่านี้ก็แสดงออกถึงการโจมตีได้ดี เนื่องจากสารที่แท้จริงนั้นขึ้นอยู่กับผู้รับสารว่าต้องการให้เป็นแบบใด
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนมีระบบปิดกั้นข้อมูลที่ซับซ้อนและควบคุมอินเตอร์เน็ตในประเทศอย่างรัดกุม จีนยังจำกัดข่าวและสื่อสังคมออนไลน์จากต่างประเทศเกือบทั้งหมด และลบข้อมูลในเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศ ที่พรรคคอมมิวนิสต์เห็นว่ามีเนื้อหาโจมตีตน
ที่มาของการประท้วง
มีความไม่พอใจทั่วจีนมานานหลายเดือนแล้ว หลังรัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมโควิดอย่าวรัดกุมมากว่าสามปี โดยมีการประท้วงเป็นระยะในเมืองต่าง ๆ เช่น กว่างโจว เซี่ยงไฮ้
อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้อพาร์ทเมนท์ในนครอุรุมชี เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองซินเจียง เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน จุดชนวนให้เกิดการประท้วงระลอกล่าสุด โดยผู้ประท้วงระบุว่า เหยื่อที่ติดอยู่ในอาคารดังกล่าวไม่สามารถหนีเพลิงไหม้ออกมาได้ เนื่องจากอพาร์์ทเมนท์ถูกปิดล็อกเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
ทางการจีนปฏิเสธว่า ประตูไม่ได้ล็อก และระบุว่า มีผู้มีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่เบื้องหลังการเชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้กับมาตรการควบคุมโควิด
พยานในที่เกิดเหตุกล่าวกับวีโอเอว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปในอาคารได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากนโยบายควบคุมโควิดของรัฐบาล
การปราบปรามการประท้วง
ตำรวจจำนวนมากเข้าควบคุมการประท้วง นำไปสู่การจับกุมประชาชนไม่ทราบจำนวน
ประชาชนในนครเซี่ยงไฮ้ที่เข้าร่วมพิธีรำลึกเหยือที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในนครอุรุมชี กล่าวกับวีโอเอว่า เขาเห็นตำรวจจับกุมผู้ประท้วงหลายคน
นับตั้งแต่มีการประท้วง ตำรวจเดินตรวจตราถนนตามเมืองใหญ่ของจีน ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า ตำรวจเรียกหยุดผู้คนแบบสุ่มเพื่อตรวจโทรศัพท์ ซึ่งอาจเพื่อตรวจดูว่าพวกเขาสนับสนุนการประท้วงหรือไม่
การเปลี่ยนนโยบาย
หลังมีการประท้วง เจ้าหน้าที่ทั่วจีนประกาศเปลี่ยนแปลงมาตรการควบคุมโควิดบางส่วน เช่น นครเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดตรวจเชื้อโคโรนาไวรัสเพื่อเข้าอาคารราชการส่วนใหญ่ โดยเริ่มยกเลิกตั้งแต่วันอังคาร ขณะที่ประชาชนในกรุงปักกิ่งและเมืองอื่น ๆ สามารถขึ้นรถประจำทางได้โดยไม่ต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบภายในช่วง 48 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม จีนยังคงบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิดส่วนใหญ่ แม้เจ้าหน้าที่จะส่งสัญญาณเปลี่ยนทิศทางนโยบายแล้วก็ตาม
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?
เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การประท้วงในจีนได้ผล โดยสังเกตได้จากการประท้วงที่ลดลงเนื่องจากผู้ประท้วงบรรลุผลตามที่ต้องการ
อาจารย์ลิงค์เห็นด้วยเช่นกันว่าการประท้วงได้ผลในการเปลี่ยนโยบายของรัฐบาล แต่รัฐบาลเองก็กดดันประชาชนด้วยเช่นกัน เช่น ตำรวจนอกเครื่องแบบอาจเข้าหาประชาชนในท้องที่เพื่อโน้มน้าวพวกเขาไม่ให้ประท้วง หากไม่สำเร็จก็อาจขู่และนำไปสู่การจับกุม
- ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์ เอพี และวีโอเอภาคภาษาจีนกลาง