ชาวอเมริกันยังฝ่าฟันกับพายุฤดูหนาวกันต่อ แม้อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเหน็บทั่วอเมริกาพุ่งต่อเป็น 60 คน ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้คนในนิวยอร์กเริ่มออกมาใช้ชีวิตหลังจากจมอยู่กับหิมะที่ตกหนา 1.2 เมตร ช่วงพายุหิมะวันคริสต์มาสที่ผ่านพ้นมา แม้ว่าสำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ จะคาดการณ์ว่ายังมีหิมะตกส่งท้ายปลายพายุฤดูหนาวอีกเล็กน้อยในวันอังคาร อากาศยังคงหนาวเย็นที่ประมาณ -6 จนถึง -2 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะเริ่มอุ่นขึ้นในปลายสัปดาห์ โดยคาดว่าอุณหภูมิจะสูงสุดที่ 8 องศาเซลเซียสในช่วงวันพฤหัสบดี และจะสูงขึ้นเป็น 12 องศาเซลเซียสในวันเสาร์หน้า
อย่างไรก็ตาม ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุฤดูหนาวครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 60 คนทั่วประเทศ อ้างอิงจากเอ็นบีซีนิวส์ โดยที่นิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิต 28 คนในเขตปกครองอีรีเคาน์ตี้ และมีผู้เสียชีวิต 20 คนในบัฟฟาโล มีรายงานผู้เสียชีวิตบางส่วนถูกแช่แข็งอยู่ในรถ และมีผู้ที่เสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันระหว่างตักหิมะ จนทางการอีรีเคาน์ตี้ ต้องประกาศมาตรการ Shovel Smart ที่เตือนประชาชนในพื้นที่ว่าการออกมาตักหิมะท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจัดอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังและหัวใจวายได้
ตอนนี้ยังมีรายงานไฟฟ้าดับและกลับมาใช้งานได้ในหลายพื้นที่หลังพายุฤดูหนาวผ่านพ้น แต่ยังมีประชาชนราว 122,000 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันอังคาร ลดลงจากระดับ 1.8 ล้านครัวเรือนเมื่อวันเสาร์ อ้างอิงจากเว็บไซต์ PowerOutage.us โดยรัฐโอเรกอนและแคลิฟอร์เนียเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในตอนนี้
ส่วนสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส นำโด่งด้านการยกเลิกเที่ยวบินมากที่สุดในสหรัฐฯ จากอากาศเลวร้าย ซึ่งกระทบการเดินทางช่วงเทศกาล โดยมีการยกเลิกเที่ยวบินไป 2,589 เที่ยวบินในวันอังคาร หรือประมาณ 2 ใน 3 ของเที่ยวบินทั้งหมด และคิดเป็น 86% ของเที่ยวบินทั้งหมดที่ขึ้นบินในวันอังคาร อ้างอิงจากเว็บไซต์ FlightAware
- ที่มา: รอยเตอร์