ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สงครามยูเครน สะเทือน ‘วงการเกณฑ์ทหาร’ ของรัสเซีย


Russia Ukraine Draft Fears
Russia Ukraine Draft Fears

ในช่วงที่กองทัพรัสเซียระดมกำลังไปยังยูเครน วัยรุ่นรัสเซียที่อยู่ในวัยเกณฑ์ทหารเริ่มกังวลถึงอนาคตของตัวเองที่จะถูกส่งไปยังสมรภูมิ และคลื่นความหวาดกลัวนี้ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อมาถึงฤดูกาลเกณฑ์ทหาร ซึ่งเริ่มต้นในวันศุกร์ ที่รัสเซียมีเป้าหมายคัดสรรทหารใหม่ 134,500 นายเพื่อเข้ารับการเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 1 ปีเต็มนี้ ตามรายงานของเอพี

รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู ออกมาให้ความเชื่อมั่นในการเกณฑ์ทหารสัปดาห์นี้ว่า เหล่าทหารเกณฑ์จะไม่ถูกส่งไปยังแนวหน้า หรือ ในพิกัดความขัดแย้งที่ระอุอยู่ในช่วงนี้

ทว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของกลาโหมรัสเซียเต็มไปด้วยข้อกังขาในสายตาชาวรัสเซียมากมาย ที่ยังจดจำสงครามในเชชเนีย ซึ่งเหล่าทหารใหม่รัสเซียที่ได้รับฝึกฝนมาน้อยนิดถูกพรากชีวิตไปจำนวนมาก

วลาดิสลาฟ ผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยนามสกุล ชายรัสเซียวัย 22 ปี เปิดเผยกับเอพีว่า เขาไม่เชื่อรัฐบาลที่บอกว่าจะไม่ส่งทหารเกณฑ์ใหม่ไปทำสงคราม และกลัวว่าเขาอาจจะต้องไปเกณฑ์ทหารในทันทีที่จบการศึกษา

ทั้งนี้ ชายรัสเซียทุกคนในช่วงอายุ 18-27 ปี จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 1 ปี แต่ส่วนใหญ่สามารถขอยกเว้นการเกณฑ์ทหารได้ ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ รวมทั้งการผ่อนผันสำหรับผู้ที่ศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งผู้ที่ขอยกเว้นหรือผ่อนผันการเกณฑ์ทหารในรัสเซียส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในกรุงมอสโกและเมืองใหญ่ของรัสเซีย

แม้ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และเจ้าหน้าที่รัฐบาลเครมลิน จะยืนยันว่าทหารเกณฑ์หน้าใหม่จะไม่ต้องร่วมปฏิบัติการที่รัสเซียเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครน” แต่ทหารใหม่หลายรายปรากฏตัวอยู่ในเรือนจำ รวมถึงคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งพบทหารยูเครนจับกุมทหารหนุ่มรัสเซีย และบางรายก็พยายามติดต่อหาครอบครัวหลังจากต้องเข้าร่วมรบในยูเครน

ลูบอฟ แม่ลูกหนึ่งชาวรัสเซีย ที่ยืนยันกับสำนักข่าวเอพีว่า ลูกชายวัย 20 ปีของเธอ ผู้เพิ่งได้เกณฑ์ทหารไป คือ ชายที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่ถูกจับในยูเครน แม้จะอยู่ในสภาพที่ปิดตาอยู่ก็ตาม เธอบอกว่า เธอเลี้ยงเขามาด้วยตัวเอง และรู้ได้ทันทีว่าชายในคลิปนี้เป็นลูกชายของเธอ จากริมฝีปาก คาง และนิ้วมือของเขา

เรื่องนี้ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ถูกกดดันให้ปรับเปลี่ยนแถลงการณ์ และยอมรับว่าทหารเกณฑ์บางส่วนถูกส่งไปยังยูเครน “ด้วยความผิดพลาด” และถูกจับกุมในยูเครนระหว่างการจัดส่งเสบียงไปยังแนวหน้า

ก่อนเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ มีรายงานที่กล่าวหาว่า ทหารเกณฑ์บางรายถูกบังคับใช้ลงนามในสัญญาที่เปิดทางให้ส่งพวกเขาไปร่วมรบในสงครามได้ ซึ่งปกติแล้วจะสงวนพื้นที่ดังกล่าวไว้สำหรับทหารอาสาในกองทัพเท่านั้น ทหารที่ถูกจับกุมในยูเครนบางนาย ระบุว่า พวกเขาได้รับคำสั่งจากหัวหน้าว่าจะไปร่วมฝึกฝนทางการทหาร ก่อนจะพบว่าพวกเขาต้องไปร่วมรบในยูเครนแทน

ลุดมิลา นารูโซวา สมาชิกวุฒิสภารัสเซียผู้ต่อต้านการทำสงครามในยูเครน กล่าวเมื่อต้นเดือนมีนาคม ว่ามีชายราว 100 คน ยืนยันว่าถูกบังคับให้เซ็นต์สัญญาดังกล่าวและถูกส่งไปยังสนามรบ และมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกองทัพรัสเซียไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อข้อกล่าวหาของวุฒิสมาชิกนารูโซวาแต่อย่างใด

ขณะที่สเว็ตลานา อากาพิโทวา คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กล่าวเมื่อวันพุธว่า ญาติของทหาร 7 นาย ได้เขียนจดหมายว่าทหารเหล่านี้ถูกบังคับให้ทำสัญญาเพื่อส่งไปรบในยูเครนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขาเอง และมีทหาร 2 นายที่ถูกส่งกลับมายังรัสเซีย

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลเครมลิน ได้เน้นการเพิ่มสัดส่วนทหารอาสา เพื่อหวังสร้างความพร้อมและเพิ่มความทันสมัยให้กองทัพรัสเซีย โดยทหาร 1 ล้านนายของรัสเซียเป็นทหารรับจ้างประมาณ 400,000 นาย และเป็นทหารใหม่อีก 147,000 นาย ซึ่งหากสถานการณ์สงครามความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป จำนวนทหารที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอในปฏิบัติการทางทหารต่างๆของรัสเซีย

ปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้รัสเซียต้องเลือก ระหว่างการเดินหน้าสู้รบต่อไปด้วยกำลังทหารที่จำกัด หรือการเพิ่มตำแหน่งทางการทหารและเปิดการเกณฑ์ทหารที่มากขึ้น ซึ่งแนวทางนี้จะเสี่ยงต่อการโจมตีจากภาคประชาสังคมที่จะออกมาต่อต้านการเกณฑ์ทหาร และสะเทือนเสถียรภาพทางการเมืองรัสเซียอีกทอดหนึ่ง

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG