การประเมินสถานการณ์สงครามในยูเครนโดยกระทรวงกลาโหมอังกฤษชี้ว่า การสู้รบที่ดำเนินมากว่า 14 เดือนนี้กำลังส่งผลให้รัสเซียต้องเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยประสบมา
รายงานข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมอังกฤษที่เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ในวันอาทิตย์ระบุว่า งานสำรวจภาวะเศรษฐกิจโดยธนาคารกลางรัสเซียที่กินระยะเวลา 3 ปีเปิดเผยว่า ประชากรของประเทศลดลงกว่าคาดถึงราว 2 ล้านคน โดยมีสาเหตุมาจากสงครามในยูเครนและการระบาดใหญ่ของโควิด-19
กลุ่มแวกเนอร์กลับลำเดินหน้าร่วมรบ
กลุ่มแวกเนอร์ องค์กรทหารรับจ้างที่ช่วยรัสเซียรบในยูเครน ประกาศกลับลำจุดยืนของตน หลังโพสต์คลิปวิดีโอทางแอปเทเลแกรมเมื่อวันศุกร์ ซึ่งมีเนื้อหาด่าทอเจ้าหน้าที่กองทัพรัสเซียว่า ไม่ใส่ใจและไร้ความสามารถ พร้อมแสดงภาพศพทหารที่นอนกลาดเกลื่อนอยู่ซึ่งโทษว่าเป็นเพราะปัญหาขาดแคลนกระสุนถึง 70% เนื่องจากเครมลินไม่นำส่งมาให้ และประกาศว่า ตนจะถอนกำลังออกจากเมืองบาคห์มุต ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้
แต่ล่าสุด เยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกลุ่มแวกเนอร์ ประกาศว่า ทางกลุ่มจะไม่ถอนทัพออกจากเมืองแห่งนี้ของยูเครนที่รัสเซียยึดครองไว้อยู่แล้ว หลังรัสเซียสัญญาจะนำส่งกระสุนมาให้ตามที่ฝ่ายตนต้องการ
มอสโกย้ำมาเสมอว่า ฝ่ายตนต้องการที่จะยึดครองเมืองบาคห์มุตให้เบ็ดเสร็จก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแห่งชัยชนะ (Victory Day) หรือวันครบรอบวันที่โซเวียตเอาชนะกองทัพเยอรมันนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้
รัสเซียกล่าวหาชาติตะวันตก-ยูเครนร่วมโจมตีตน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียอ้างว่า ยูเครนและชาติตะวันตกเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดรถที่ทำให้ ซาคาร์ พริเลพิน นักเขียนแนวคิดทางการเมืองรักชาติชั้นนำของประเทศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ คนขับรถของเขาเสียชีวิต
สื่อ Tass ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานว่า พริเลพิน มีอาการทรงตัวแล้วหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้ ๆ ที่เกิดเหตุหลังการระเบิด แต่ยังอยู่ในภาวะโคม่าจากการให้ยา ขณะที่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุได้แล้ว
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ ซึ่งไม่มีการอ้างอิงหลักฐานใด ๆ ว่า “ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้และการก่อการร้ายอื่น ๆ ไม่ได้เป็นเพียงของทางการยูเครน แต่ยังเป็นของผู้อุปถัมภ์ทั้งหลายจากชาติตะวันตก โดยรายแรกก็คือ สหรัฐอเมริกา”
แถลงการณ์นี้ยังระบุด้วยว่า ความล้มเหลวของกรุงวอชิงตันในการออกมาประณามเหตุการณ์นี้และเหตุการณ์โจมตีอื่น ๆ เป็น “การเปิดเผยด้วยตนเอง [ว่าตนคือผู้อยู่เบื้องหลัง]” ของรัฐบาลสหรัฐฯ
รอยเตอร์สอบถามไปยังทำเนียบขาว เพนตากอน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อขอความเห็น แต่ไม่ได้รับการตอบกลับในช่วงที่จัดทำรายงานข่าวนี้ ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษก็ไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ เช่นกัน
นอกจากนั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงของยูเครนไม่ยืนยันหรือปฏิเสธความเกี่ยวข้องของตนในกรณีการวางระเบิดรถครั้งนี้ หรือการโจมตีครั้งก่อน ๆ
สื่อ ยูครินฟอร์ม (Ukrinform) ของยูเครนอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในรายงานข่าวที่ระบุว่า “ในทางการแล้ว เราไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธความเกี่ยวข้องของ SBU (หน่วยความมั่นคงยูเครน) ในเหตุการณ์นี้หรือเหตุระเบิดอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ยึดครองหรือลูกสมุนของพวกเขา”
ทั้งนี้ ยูเครน สหภาพยุโรป อังกฤษ และแคนาดา ดำเนินมาตรการลงโทษต่อพริเลพิน ที่ให้การสนับสนุนการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยนักเขียนรายนี้ยังได้เข้าร่วมกองกำลังสำรองเพื่อร่วมรบในยูเครนเมื่อเดือนมกราคมด้วย ตามรายงานของสื่อรัสเซีย
ยูเครนอ้าง ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของรัสเซียตก
กองทัพอากาศยูเครนรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศ แพทริออต ที่สหรัฐฯ ส่งมาช่วยรบ สามารถสกัดและยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของรัสเซียตก ซึ่งสำนักข่าวเอพี ระบุว่า นี่คือ ครั้งแรกที่ยูเครนสามารถจัดการกับหนึ่งในขีปนาวุธที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซียได้สำเร็จ
ขีปนาวุธ คินชาล (Kinzhal) ของรัสเสียมีความสามารถบินได้เร็วกว่าเสียงถึง 10 เท่า และมีความสามารถทำลายล้างเป้าหมายที่มีการเสริมความแข็งแกร่งอย่างหนักแล้ว เช่น บังเกอร์หลบภัยใต้ดินหรืออุโมงค์ลึกใต้ภูเขา ได้อย่างสบาย ๆ
มีโคลา โอเลชชุก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน เปิดเผยความสำเร็จดังกล่าวผ่านแอปเทเลแกรม ขณะที่ ยูรี อิฮ์นาท โฆษกกองทัพอากาศ ระบุในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ยูเครนว่า การสกัดขีปนาวุธ คินชาล ได้นั้น เป็น “การตบหน้ารัสเซีย” เลยทีเดียว
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์