ผลสำรวจความคิดเห็นจากนักกลยุทธ์การลงทุนโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ เปิดเผยค่ามัธยฐาน (Median) ของคาดการณ์ทิศทาง ดัชนี S&P 500 ว่า จะทำกำไรเพิ่มขึ้น 7.5% นับจากนี้จนถึงสิ้นปีหน้าที่ดัชนีนี้น่าจะปิดที่ระดับ 4,910 จุด โดยมีปัจจัยส่งหลักๆ คือ ผลประกอบการที่ดีขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
การประเมินเชิงบวกล่าสุดนี้มีออกมา ขณะที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการค้นพบและการแพร่กระจายของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีต่างๆ ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 ในปีนี้นั้นยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีที่แล้วกว่า 21% โดยได้อานิสงก์มาจากการกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังการยุติมาตรการล็อกดาวน์ไป
สำหรับการคาดการณ์ล่าสุดของทิศทางดัชนีในปี ค.ศ. 2022 ที่ 4,910 จุดนั้น นักกลยุทธ์ที่รอยเตอร์สำรวจมานำเสนอตัวเลขที่สูงกว่าผลการสำรวจเมื่อเดือนสิงหาคมที่ระดับ 4,725 จุดเสียอีก แม้ทีมงานย้ำว่า ค่ามัธยฐานใหม่นี้ออกมาโดยยังไม่ได้พิจารณาเรื่องผลกระทบของ ไวรัส ‘โอมิครอน’
ไรอัน เดทริค หัวหน้าทีมนักกลยุทธ์การตลาด จาก IPL Financial ซึ่งคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 จะปิดที่ระดับ 5,050 จุด ในช่วงสิ้นปี ค.ศ. 2022 กล่าวว่า “ปีหน้าอาจจะเห็นการชะลอตัวลงบ้าง แต่ภาพรวมยังดูแข็งแกร่งว่าเทรนด์ที่เห็นกันอยู่”
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจล่าสุดคาดการณ์ว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial) จะปิดปีหน้าที่ระดับ 37,500 จุด หรือปรับขึ้นราว 8.7% จากตัวเลขปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า แม้การเติบโตของผลกำไรในปีหน้าน่าจะออกมาต่ำกว่าช่วงที่ตลาดคึกคักสูงสุดเมื่อก่อนหน้านี้ที่ธุรกิจต่างๆ กลับมาเปิดทำการหลังต้องชะลอตัวเพราะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นักกลยุทธ์การลงทุนบางรายยังเชื่อว่า ผลการสำรวจล่าสุดนั้นประเมินความแข็งแกร่งของทิศทางการลงทุนต่ำเกินความจริงไป