ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ปูติน-พรีโกชิน เคลื่อนไหวหลังกบฏฟ้าแลบ ไบเดน ย้ำชัด สหรัฐฯ-นาโต้ไม่เกี่ยว


Russian President Vladimir Putin is seen on monitors as he addresses the nation. (Pavel Bednyakov, Sputnik, Kremlin Pool Photo via AP, File)
Russian President Vladimir Putin is seen on monitors as he addresses the nation. (Pavel Bednyakov, Sputnik, Kremlin Pool Photo via AP, File)

รัสเซียเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ในรอบหลายทศวรรษของประเทศ หลังจากการก่อกบฏสายฟ้าแลบของกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ที่เกิดขึ้นและจบลงภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่สิ่งนี้ได้สร้างคำถามใหญ่ต่อทิศทางของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนและต่ออนาคตของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย

การก่อกบฏโดย เยฟเกนี พรีโกชิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง แวกเนอร์กรุ๊ป (Wagner Group) ที่สร้างความแตกตื่นให้รัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองกำลังของพริโกชินได้เคลื่อนพลอย่างรวดเร็วเข้าไปควบคุมฐานทัพทางตอนใต้สองแห่งของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกเพียง 200 กิโลเมตร ก่อนจะถอนกำลังออกไปหลังจากบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลกรุงเครมลิน เลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ เรียกผู้ปลุกระดมให้เกิดการก่อกบฏโดยกลุ่มทหารแวกเนอร์ว่าเป็น “คนทรยศ” และว่าคนเหล่านี้ได้หลอกลวงพวกเดียวกันเองและ “ผลักดันพวกเขาไปสู่ความตาย” และ “ให้เข่นฆ่ากันเอง”

Russian President Vladimir Putin gives a televised address in Moscow
Russian President Vladimir Putin gives a televised address in Moscow

ประธานาธิบดีปูติน กล่าวขอบคุณเหล่าทหารรับจ้างและผู้บัญชาการ “ผู้รักชาติ” ทั้งหลายที่หลีกเลี่ยงการนองเลือดที่อาจเกิดขึ้น และว่าจะทำตามคำสัญญาที่ให้เหล่าทหารแวกเนอร์เคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังเบลารุสตามต้องการ หรือเลือกจะเซ็นสัญญากับรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย หรือแค่เลือกที่จะกลับมาหาครอบครัวก็ได้

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีปูตินไม่ได้กล่าวถึงหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์แต่อย่างใด เพียงแต่กล่าวว่าองค์กรของกลุ่มกบฏได้ทรยศต่อ “ประเทศของเขา ประชาชนของพวกเขา และทรยศหักหลังผู้ที่ถูกหลอกลวงให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม” และองค์กรนี้หยิบยื่นสิ่งที่ศัตรูต้องการ คือ “ทหารรัสเซียเข่นฆ่ากันเอง เพื่อให้ทหารและผู้บริสุทธ์ต้องตายไป เพื่อให้ในท้ายที่สุดรัสเซียจะพ่ายแพ้”

ในวันจันทร์ ทั้งหัวหน้ากลุ่มทหารแวกเนอร์ และรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู พยายามลดภาพความรุนแรงของวิกฤตดังกล่าวในสายตาประชาคมโลก

Nan foto sa a ke Sevis Lapres Prigozhin nan distribye bay lapres, Yevgeny Prigozhin, pdg Wagner Gwoup la anrejistre yon videyo nan Rostov-on-Don, Larisi, 24 Jyen 2023.
Nan foto sa a ke Sevis Lapres Prigozhin nan distribye bay lapres, Yevgeny Prigozhin, pdg Wagner Gwoup la anrejistre yon videyo nan Rostov-on-Don, Larisi, 24 Jyen 2023.

โดยพรีโกชิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง แวกเนอร์กรุ๊ป กล่าวแถลงเป็นครั้งแรกหลังการก่อกบฏเมื่อสุดสัปดาห์ ระบุผ่านทางเทเลแกรมว่า “เราไม่ได้มีเป้าหมายในการล้มล้างระบอบการปกครองที่มีอยู่และรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งตามกฎหมาย”

พรีโกชินการก่อกบฏเป็นไป “เพื่อป้องกันการล่มสลายของกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์” และว่าเป็นการตอบโต้กรณีที่ค่ายทหารของแวกเนอร์ในยูเครนถูกกองทัพรัสเซียโจมตีเมื่อวันศุกร์ ซึ่งคร่าชีวิตทหาร 30 นายของแวกเนอร์ พร้อมย้ำว่า "แวกเนอร์กรุ๊ปคือกองกำลังที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในรัสเซีย และการเข้าควบคุมเมืองเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน (Rostov-on-Don) โดยปราศจากการนองเลือดและการส่งกองกำลังเข้าไปในระยะเพียง 200 กิโลเมตรจากกรุงมอสโกถือเป็นเครื่องยืนยันประสิทธิภาพของเหล่าทหารของแวกเนอร์แล้ว"

อีกด้านหนึ่งมีคลิปวิดีโอของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู เดินทางเยี่ยมเหล่าทหาร ในการปรากฎตัวครั้งแรกหลังการก่อกบฏของกลุ่มแวกเนอร์ แต่ในรายงานไม่ได้ระบุพิกัดที่ชอยกูปรากฏตัวพร้อมกับเหล่าทหารแต่อย่างใด

Biden
Biden

ฝั่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ถึงวิกฤตรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบของสถานการณ์รัสเซียที่มีส่งผลต่อสงครามยูเครนได้

ประธานาธิบดีไบเดน ย้ำด้วยว่า สหรัฐฯ และนาโต้ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏสายฟ้าแลบในรัสเซียของกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ และว่าเป็นการลุกฮือและท้าทายอำนาจประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่าเป็นปัญหาภายในรัสเซีย

ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกว่าได้หารือกับพันธมิตรรวมทั้งกับยูเครนเกี่ยวกับสถานการณ์ของรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมให้คำมั่นกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในรัสเซีย สหรัฐฯ จะเดินหน้าการสนับสนุนการปกป้องและอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของยูเครนต่อไป

Russian Revolt Putin
Russian Revolt Putin

ระหว่างที่ทางการรัสเซียแสดงความเป็นหนึ่งเดียวในการสนับสนุนประธานาธิบดีปูตินในวันจันทร์ และสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้นำรัสเซียแข็งแกร่งขึ้นหลังวิกฤตช่วงสั้น ๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผู้สังเกตการณ์จากต่างชาติกลับมองต่างออกไปว่า ภาพความอ่อนแอในตัวผู้นำรัสเซียนั้นได้ฉายชัดยิ่งขึ้นหลังวิกฤตครั้งนี้

เคียร์ ไจลส์ นักวิชาการอาวุโสด้านรัสเซียและยูเรเชีย จาก Chatham House ในกรุงลอนดอน ให้ทัศนะกับวีโอเอว่า “สิ่งนี้(การก่อกบฏ)ได้ทำลายมายาคติที่ว่า(ปธน.)ปูตินได้ควบคุมและครอบครองอำนาจทั้งประเทศเอาไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว และเหตุการณ์ของพรีโกชินเป็นตัวอย่างที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับรัสเซีย เมื่อคนอื่นได้เห็นสิ่งนี้ว่าสามารถเกิดขึ้นได้และมีโอกาสรอดพ้น จะมีการท้าทายอำนาจจากกลุ่มอื่น ๆ ตามมาอีก”

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์รายนี้เชื่อว่า ไม่ว่าข้อตกลงที่ปธน.ปูตินทำไว้กับพรีโกชินจะเป็นแบบไหน แต่อนาคตอันมืดมนนั้นรออยู่ข้างหน้าสำหรับหัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์อย่างแน่นอน

ความสงบสุขได้กลับคืนมาอีกครั้งอย่างน้อยก็แค่ในช่วงเวลานี้สำหรับรัสเซีย แต่หลังจากวิกฤตที่เกิดขึ้น บรรดานักวิเคราะห์ต่างเห็นว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้

  • ที่มา: วีโอเอ รอยเตอร์ และเอพี
XS
SM
MD
LG