รัฐบาลเวียดนามเปิดเผยว่า ต้องการศึกษาประสบการณ์จากจีน เพื่อสร้างโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงแห่งแรกของประเทศ โดยให้เหตุผลว่า อุตสาหกรรมรางของจีนพัฒนาที่สุดในโลก ตามการรายงานของรอยเตอร์
สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า รัฐบาลกรุงฮานอยกำลังวางแผนก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 1,545 กม. ซึ่งอาจใช้งบประมาณ 72,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.6 ล้านล้านบาท) หรือราว 17% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
แถลงการณ์ของรัฐบาลที่เผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า “อุตสาหกรรมรางของจีนมีความพัฒนามากที่สุดในโลก เวียดนามจึงต้องการเรียนรู้จากประสบการณ์ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่เทคโนโลยี การผลักดันด้านการเงิน และความชำนาญด้านการจัดการ”
ถ้อยแถลงข้างต้นถูกเปิดเผยในช่วงที่รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุน เหงียน จิ ดุง เดินทางเยือนประเทศจีนเพื่อเข้าพบกับทางการฝ่ายการค้าและคมนาคม และผู้บริหารการรถไฟของประเทศ
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือหลายสิบฉบับขณะเยือนกรุงฮานอยของเวียดนาม รวมถึงเรื่องงานด้านการรถไฟ
นอกจากจีน เมื่อปีที่แล้วเวียดนามก็ได้ขอการสนับสนุนจากญี่ปุ่นในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเช่นกัน
แม้จะมีแผนการก่อสร้างมาหลายปีในหลายประเทศรวมถึงเวียดนามและไทย แต่โครงการรถไฟความเร็วสูงยังคงเดินหน้าไปอย่างล่าช้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเพียงลาวที่มีระบบรางความเร็วปานกลางซึ่งก่อสร้างจากเงินกู้ของจีน ที่เปิดใช้งานเมื่อปี 2021 และรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 142 กม. ในอินโดนีเซียที่เปิดใช้งานเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งใช้งบก่อสร้างจำนวนมากจากเงินกู้ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศจีน
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงของเวียดนาม ข้อมูลจากรัฐบาลยังไม่มีรายละเอียดเรื่องกรอบระยะเวลาดำเนินการ โดยแผนการดังกล่าวจะถูกส่งไปยังรัฐสภาเพื่อพิจารณารับรองต่อไปในปีนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี
กระดานความเห็น