ลูกหมีสองตัวกำลังเคี้ยวเชือกที่แขวนเอาไว้เป็นของเล่นในกรงพิเศษในศูนย์สงวนพันธุ์สัตว์ในอุทยานแห่งชาติ Tam Dao ห่างจากกรุงฮานอยไป 70 กิโลเมตร ลูกหมีสองตัวนี้เป็นสมาชิกใหม่ที่ยึดมาได้จากชายสองคนขณะกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองชายแดนติดกับประเทศจีน นักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์เชื่อว่าชายสองคนวางแผนจะลักลอบนำลูกหมีทั้งสองตัวไปขายให้กับฟาร์หมแห่งหนึ่งที่เลี้ยงหมีเพื่อเอาน้ำดีไปขาย
ในประเทศทางเอเชีย มีการนำน้ำดีจากสัตว์ไปใช้ทำยาแผนโบราณ นำไปใช้แก้อาการอักเสบ แก้ไข้ ปรับปรุงสายตาให้ดีขึ้นและแก้โรคอื่นๆ การเลี้ยงสัตว์เพื่อดูดน้ำดีจากตับอ่อนไปขายเป็นกิจการที่ผิดกฏหมายในเวียดนาม
แม้ว่าลูกหมีทั้งสองตัวจะรอดจากเงื้อมมือผู้ลักลอบค้าหมีมาได้ มันยังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน ศูนย์สงวนพันธุ์หมีแห่งนี้ดำเินินการโดยองค์กร Animals Asia ที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง กำลังจะถูกทางการเวียดนามสั่งปิดหรือย้าย คุณตวน เบนดิกเซ็น ผู้อำนวยการประจำเวียดนามขององค์กรนี้บอกว่ากระทรวงกลาโหมเวียดนามออกหนังสือคำสังให้มีการย้ายศูนย์สงวนพันธุ์หมีออกจากอุทยานแห่งชาติโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
เขากล่าวว่าทางกระทรวงต่างๆได้ประชุมกับทางทหารและได้ตกลงออกคำสั่งให้ศูนย์ปิดตัวหรือให้ย้ายออกจากเขตอุทยานไปอยู่ที่อื่น
ที่ศูนย์มีสัตว์จำนวนหนึ่งร้อยสี่ตัว ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากฟาร์หมเลี้ยงสัตว์เพื่อขายน้ำดี ในฟาร์หม สัตว์จะถูกขังไว้ในกรงขนาดเล็ก ถูกฉีดยาให้อยู่ในสภาพสงบและใช้เข็มฉีดยาดูดเอาน้ำดีจากตับอ่อนของสัตว์บ่อยถึงสองครั้งต่อวัน
คุณตวนแห่งองค์กร Animals Asia ในเวียดนามชี้ว่าสถานการณ์ลักลอบค้าหมีให้ฟาร์มน้ำดีสัตว์จะเลวร้ายลงไปอีกหากมีการปิดศูนย์เพราะทางการไม่มีทั้งทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในการดูแลหมีหลังจากหมีได้รับการช่วยเหลือจากฟาร์หมน้ำดีสัตว์และกลุ่มลักลอบค้าหมี
คุณตวนกล่าวว่าต่อไปการกระตุ้นให้ทางการบังคับใช้กฏหมายก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก ทางการจะใช้เป็นข้ออ้างต่อไปว่าไม่สามารถปราบปรามฟาร์หมน้ำดีสัตว์แล้วช่วยเหลือหมีได้เพราทางการไม่มีสถานที่ดูแลหมีหลังการช่วยเหลือ
่
ความขัดแย้งนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากทางองค์กร Animals Asia ได้ออกใบแถลงข่าว กล่าวหาว่าหัวหน้าอุทยานแห่งชาติว่าทำการล็อบบี้กระทรวงกลาโหมให้สั่งย้ายศูนย์ออกจากเขตอุทยานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทางองค์กรกล่าวหาว่าต้องการที่ดินที่ศูนย์ตั้งอยู่ไปใช้ในโครงการสร้างโรงแรม
อย่างไรก็ดี หลายคนเห็นว่าทางศูนย์จะไม่ถูกย้าย แต่เรื่องนี้จำกระทบต่อแผนการขยายพื้นที่ศูนย์เพราะหากขยายออกไปทางฝั่งหุบเขา Chau Dau Valley ก็จะไปจรดกับเขตฐานทัพของทหาร ดังนั้นควรจะขยายออกไปอีกทางหนึ่ง
แม้ว่าทางการเวียดนามจะห้ามการเลี้ยงหมีเพื่อเอาน้ำดีไปขายตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว คนทั่วไปยังสามารถเลี้ยงหมีเป็นสัตว์เลี้ยงหรือเพื่อการท่องเที่ยว เจ้าของหมีได้รับคำเตือนไม่ให้เลี้ยงหมีเพื่อใช้น้ำดีจากสัตว์ แต่แม้กระนั้น ป้ายโฆษณาน้ำดีหมียังติดไว้ทั่วไปตามข้างทาง เชื่อว่ามีหมีราวสี่พันตัวถูกเลี้ยงไว้ในกรงทั่วเวียดนาม
คุณตวนแห่ง Animals Asia กล่าวว่า อนาคตของศูนย์ช่วยเหลือหมีขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่เป็นคนอนุญาตให้ตั้งศูนย์แห่งนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ในประเทศทางเอเชีย มีการนำน้ำดีจากสัตว์ไปใช้ทำยาแผนโบราณ นำไปใช้แก้อาการอักเสบ แก้ไข้ ปรับปรุงสายตาให้ดีขึ้นและแก้โรคอื่นๆ การเลี้ยงสัตว์เพื่อดูดน้ำดีจากตับอ่อนไปขายเป็นกิจการที่ผิดกฏหมายในเวียดนาม
แม้ว่าลูกหมีทั้งสองตัวจะรอดจากเงื้อมมือผู้ลักลอบค้าหมีมาได้ มันยังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน ศูนย์สงวนพันธุ์หมีแห่งนี้ดำเินินการโดยองค์กร Animals Asia ที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง กำลังจะถูกทางการเวียดนามสั่งปิดหรือย้าย คุณตวน เบนดิกเซ็น ผู้อำนวยการประจำเวียดนามขององค์กรนี้บอกว่ากระทรวงกลาโหมเวียดนามออกหนังสือคำสังให้มีการย้ายศูนย์สงวนพันธุ์หมีออกจากอุทยานแห่งชาติโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
เขากล่าวว่าทางกระทรวงต่างๆได้ประชุมกับทางทหารและได้ตกลงออกคำสั่งให้ศูนย์ปิดตัวหรือให้ย้ายออกจากเขตอุทยานไปอยู่ที่อื่น
ที่ศูนย์มีสัตว์จำนวนหนึ่งร้อยสี่ตัว ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากฟาร์หมเลี้ยงสัตว์เพื่อขายน้ำดี ในฟาร์หม สัตว์จะถูกขังไว้ในกรงขนาดเล็ก ถูกฉีดยาให้อยู่ในสภาพสงบและใช้เข็มฉีดยาดูดเอาน้ำดีจากตับอ่อนของสัตว์บ่อยถึงสองครั้งต่อวัน
คุณตวนแห่งองค์กร Animals Asia ในเวียดนามชี้ว่าสถานการณ์ลักลอบค้าหมีให้ฟาร์มน้ำดีสัตว์จะเลวร้ายลงไปอีกหากมีการปิดศูนย์เพราะทางการไม่มีทั้งทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในการดูแลหมีหลังจากหมีได้รับการช่วยเหลือจากฟาร์หมน้ำดีสัตว์และกลุ่มลักลอบค้าหมี
คุณตวนกล่าวว่าต่อไปการกระตุ้นให้ทางการบังคับใช้กฏหมายก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก ทางการจะใช้เป็นข้ออ้างต่อไปว่าไม่สามารถปราบปรามฟาร์หมน้ำดีสัตว์แล้วช่วยเหลือหมีได้เพราทางการไม่มีสถานที่ดูแลหมีหลังการช่วยเหลือ
่
ความขัดแย้งนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากทางองค์กร Animals Asia ได้ออกใบแถลงข่าว กล่าวหาว่าหัวหน้าอุทยานแห่งชาติว่าทำการล็อบบี้กระทรวงกลาโหมให้สั่งย้ายศูนย์ออกจากเขตอุทยานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทางองค์กรกล่าวหาว่าต้องการที่ดินที่ศูนย์ตั้งอยู่ไปใช้ในโครงการสร้างโรงแรม
อย่างไรก็ดี หลายคนเห็นว่าทางศูนย์จะไม่ถูกย้าย แต่เรื่องนี้จำกระทบต่อแผนการขยายพื้นที่ศูนย์เพราะหากขยายออกไปทางฝั่งหุบเขา Chau Dau Valley ก็จะไปจรดกับเขตฐานทัพของทหาร ดังนั้นควรจะขยายออกไปอีกทางหนึ่ง
แม้ว่าทางการเวียดนามจะห้ามการเลี้ยงหมีเพื่อเอาน้ำดีไปขายตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว คนทั่วไปยังสามารถเลี้ยงหมีเป็นสัตว์เลี้ยงหรือเพื่อการท่องเที่ยว เจ้าของหมีได้รับคำเตือนไม่ให้เลี้ยงหมีเพื่อใช้น้ำดีจากสัตว์ แต่แม้กระนั้น ป้ายโฆษณาน้ำดีหมียังติดไว้ทั่วไปตามข้างทาง เชื่อว่ามีหมีราวสี่พันตัวถูกเลี้ยงไว้ในกรงทั่วเวียดนาม
คุณตวนแห่ง Animals Asia กล่าวว่า อนาคตของศูนย์ช่วยเหลือหมีขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่เป็นคนอนุญาตให้ตั้งศูนย์แห่งนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว