ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เวียดนามคาดเศรษฐกิจขยายตัว หลังข้อตกลงการค้าเสรีกับอียูมีผลปลายปีนี้


Vietnamese workers devein shrimp at the Khanh Sung Seafood Company in the My Xuyen district in southern Vietnam.
Vietnamese workers devein shrimp at the Khanh Sung Seafood Company in the My Xuyen district in southern Vietnam.

ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ Dezan Shira & Associates ชี้ว่าข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป หรือ อียู กับเวียดนาม ที่ลงนามไปเมื่อปี พ.ศ. 2558 น่าจะช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อปีของเวียดนาม

ประเทศสมาชิกของอียูหลายชาติ ตั้งเเต่เยอรมนี เนเธอร์เเลนด์ เเละสหราชอาณาจักร ได้นำเข้าสินค้าส่งออกทุกชนิดจากเวียดนามเเล้วรวมกัน 9 เปอร์เซ็นต์ และสหภาพยุโรปมีสมาชิกถึง 28 ชาติด้วยกัน

ข้อตกลงการค้าเสรีดังกล่าวนี้ลงนามโดยผู้เจรจาจากทั้งสองฝ่ายเมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาของสภาแห่งยุโรป เช่นเดียวกับฝ่ายนิติบัญญัติของเวียดนาม

อดัม เเม็คคาร์ที (Adam McCarty) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่ง Mekong Economics ในกรุงฮานอย กล่าวว่า ข้อตกลงทางการค้านี้จะมีผลดี เพราะจะช่วยให้สินค้าของเวียดนามเข้าถึงตลาดยุโรปได้มากขึ้น ไม่เฉพาะเเค่สินค้าเสื้อผ้าและรองเท้าเท่านั้น เเต่ยังรวมถึงอาหารทะเลเเละผลิตภัณ์แปรรูปทางการเกษตรอีกด้วย

เวียดนามถือว่าสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้บริโภคราว 500 ล้านคน เป็นตลาดคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 3 ตามหลังจีนเเละสหรัฐฯ การค้าระหว่างสองฝ่ายรวมเเล้วอยู่ที่ 50,400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เมื่อปีเเล้ว

เวียดนามพึ่งพาการส่งออกสินค้าเสื้อผ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ เเละสินค้าอิเลคทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เพื่อกระตุ้นให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของชาติ ซึ่งเติบโตเร็วอยู่เเล้วกว่าชาติอื่นๆ เกือบทั่วโลก

ก่อนหน้านี้เวียดนามหวังว่า ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ Trans-Pacific Partnership (TPP) จะช่วยให้เวียดนามส่งออกสินค้าไปสู่ตลาดสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร แต่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนี้เมื่อปีที่แล้ว

ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนามกับอียูจะล้มเลิกภาษีนำเข้าแก่สินค้า 99 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าทั้งหมดภายใน 10 ปี เเละเปิดตลาดเวียดนามเพื่อรับการบริการต่างจากสหภาพยุโรป อาทิ การบริการทางสุขภาพ การทำบรรจุภัณฑ์ เเละการจัดการประชุม

การล้มเลิกภาษีนำเข้าสินค้านี้จะช่วยประหยัดเงินแก่บรรดาผู้ผลิตสินค้าที่ตั้งอยู่ในเวียดนามเเละขายสินค้าในยุโรป

ซอง เซง วุน (Song Seng Wun) นักเศรษฐศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำธนาคารเอกชน CIMB ในสิงคโปร์ กล่าวว่า นี่ถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนการค้ากับสหรัฐฯ ได้ เพราะสหรัฐฯ ยังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเเละสำคัญที่สุด

อียูต้องการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนาม เพื่อให้บริษัทสัญชาติอียูเข้าถึงตลาดผู้บริโภคเวียดนามที่มีกำลังซื้อมากขึ้นราว 93 ล้านคน และบรรดานักลงทุนต่างชาติเลือกเวียดนามเพราะค่าเเรงถูก สร้างตำเเหน่งงานในประเทศที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค

เเม็คสฟิลด์ บราวน์ (Maxfield Brown) ที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาวุโสแห่งบริษัทที่ปรึกษา Dezan Shira & Associates ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ กล่าวว่า การตัดลดภาษีนำเข้าจะช่วยส่งเสริมการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจากยุโรป และข้อตกลงนี้ยังจะเอื้อให้สหภาพยุโรปเข้าถึงตลาดในประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียนซึ่งมีสมาชิก 10 ชาติรวมทั้งเวียดนามด้วย

อียูล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงการค้ากับสมาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2552 หลังการเจรจานานสองปี เพราะสมาชิกของสมาคมอาเซียนไม่สามารถเห็นพ้องกันได้ในวาระที่แตกต่างกันของเเต่ประเทศสมาชิก

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)

XS
SM
MD
LG