ปัจจุบันการพัฒนาด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับบริษัทต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศกำลังอย่างเวียดนาม ด้วยเหตุนี้องค์กรนักเศรษฐศาสตร์กลุ่มหนึ่งในเวียดนามจึงพยายามทำการวิจัยสำรวจ เกี่ยวกับความสำคัญของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ที่มีต่อภาคธุรกิจในเวียดนาม
งานวิจัยสำรวจภาคธุรกิจในเวียดนามที่มีชื่อว่า i2Metrix เริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายประเมินศักยภาพของภาคธุรกิจในเวียดนาม เพื่อรองรับการขยายตัวของนวัตกรรมต่างๆ 10 ด้านด้วยกัน เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสนับสนุนองค์กร และการปรับตัวเข้ากับแนวโน้มใหม่ๆ ทางการตลาด
แนวคิดของงานวิจัย i2Metrix ตั้งอยู่บนพื้นฐานช่วยเหลือสนับสนุนภาคธุรกิจในเวียดนาม เพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันผ่านการพัฒนานวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ โดยการสำรวจครั้งนี้มุ่งเน้นตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจที่มีต่อคำว่า “นวัตกรรม”
คุณ Tran Tri Dung หนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์กลุ่ม i2Metrix ระบุว่า หากไปถามชาวเวียดนาม โดยเฉพาะนักธุรกิจและเจ้าของกิจการต่างๆว่า นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญหรือไม่? ทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจยุคนี้ แต่เมื่อถามต่อว่าจะสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือไอเดียใหม่ๆ ได้อย่างไร? คำตอบที่ได้คือไม่รู้
บรรดานักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานคือสิ่งสำคัญในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของปัจเจกบุคคล แต่การศึกษาแบบดั้งเดิมที่เน้นท่องจำ มิได้ช่วยให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์เท่าที่ควร
คุณ Tran Tri Dung ชี้ว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่านวัตกรรมหรือไอเดียใหม่ๆ นั้นเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่สิ่งที่ตนกำลังพยายามอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจคือ การสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ นั้นเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลา ใช้การวิเคราะห์ที่เป็นระบบระเบียบ และใช้ความอดทน
เวลานี้มีหลายสิบบริษัทเข้าร่วมในโครงการของ i2Metrix ตั้งแต่บริษัทที่เพิ่งเริ่มกิจการไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ โดย i2Metrix มีเป้าหมายในระดับประเทศ คือการผลักดันให้เวียดนามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เรียกว่า “กับดักรายได้ปานกลาง” ซึ่งหมายถึงประเทศที่สามารถก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง แต่กลับติดอยู่ที่ระดับนั้นและไม่สามารถขยับขึ้นเป็นประเทศรายได้สูง
เวียดนามมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่ดีต่อเนื่องมาหลายปี แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะการขยายตัวในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าเวียดนามควรกระจายการเติบโตไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ บ้าง
Suhas Parandekar นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก ระบุว่าเวียดนามได้ก้าวไปสู่ระดับที่จำเป็นต้องมีการกระจายการขยายตัวไปยังสินค้าและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย จำเป็นต้องมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มระดับการเจริญเติบโต
ในขณะที่โลกทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มักจะเกิดจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กที่เรียกว่า Startup แต่นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลกผู้นี้เชื่อว่า ไม่ว่าบริษัทใหญ่หรือเล็ก หรืออยู่ในประเทศร่ำรวยหรือยากจน ต่างต้องอาศัยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
รายงานจาก Marianne Brown / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล
