ผลงานภาคต่อของซูเปอร์ฮีโร่สายดาร์ก “เวน่อม” (Venom) เปิดตัวฉายในสัปดาห์แรกไม่ดีเท่าที่มีการคาดการณ์ไว้ในด้านรายได้ แม้จะรั้งตำแหน่งภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดประจำสัปดาห์ไปได้ก็ตาม ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
Venom: The Last Dance หรือ เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ จากค่ายโซนี่พิคเจอร์ส (Sony Pictures) ทำรายได้ในการฉายสุดสัปดาห์แรกไปได้ 51 ล้านดอลลาร์ เทียบกับตัวเลขประมาณการณ์รายได้ที่เกือบ 65 ล้านดอลลาร์
นอกจากจะทำรายได้ไม่ตรงเป้าแล้ว ผลงานภาค 3 ของฮีโร่สายดาร์ก ตัวละครจากค่ายมาร์เวล (Marvel) ยังทำเงินได้ต่ำกว่าสองภาคแรกอย่างมาก หลัง “เวน่อม” ภาคแรกเก็บเงินในสุดสัปดาห์แรกได้ถึง 80.2 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่ผลงานภาค 2 “Venom: Let There Be Carnage” หรือ เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด จะเปิดตัวด้วยรายได้ 90 ล้านดอลลาร์
รายงานข่าวระบุว่า Venom: The Last Dance มีต้นทุนการสร้างถึง 120 ล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขนี้ยังไม่รวมงบประมาณด้านการตลาดและโปรโมชันต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี ผลงานเรื่องนี้ที่ยังคงนำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี เจ้าเก่าในบทนักข่าวที่ถูกปรสิตเชื้อซิมบิโอตต่างดาวเข้ามาอาศัยอยู่ ยังทำเงินได้ดีในต่างประเทศ โดยในสุดสัปดาห์แรกนี้สามารถเก็บเงินจากผู้ชมนอกอเมริกาไปได้ถึง 124 ล้านดอลลาร์ โดย 46 ล้านดอลลาร์นั้นมาจากการฉายเป็นเวลา 5 วันในจีนเพียงประเทศเดียว
อันดับที่ 2 ในตารางบ็อกซ์ออฟฟิศสัปดาห์นี้ตกเป็นของ “ยิ้มสยอง” หรือ “Smile 2” หรือ หนังสยองขวัญก่อนสัปดาห์คืนวันฮัลโลวีนที่หล่นมาจากอันดับหนึ่งในสัปดาห์ก่อน พร้อมเก็บเงินเพิ่มไปได้อีก 9.4 ล้านดอลลาร์ ทำให้รายได้รวมเพิ่มเป็น 83.7 ล้านดอลลาร์ จากการฉายทั่วโลก
ส่วนอันดับที่ 3 นั้นเป็นของ Conclave ภาพยนตร์ลึกลับฆาตรกรรมภายในคริสตจักรที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกัน และมีนักแสดงชื่อดังตบเท้าเข้าร่วมมากมาย ตั้งแต่ เรฟ ไฟนส์ ไปจนถึง สแตนลีย์ ตุชชีและอิซซาเบลลา รอสเซลลินี และเชื่อกันว่า น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลออสการ์ในปีหน้าด้วย
Conclave ทำเงินในสัปดาห์แรกไปได้ 6.5 ล้านดอลลาร์
เจ้าของอันดับที่ 4 คือ “The Wild Robot” หนังแอนิเมชั่นจากค่ายดรีมเวิร์กสและยูนิเวอร์แซล ที่ร่วงมาจากอันดับที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้วแต่ทำเงินเพิ่มไปได้อีก 6.5 ล้านดอลลาร์
และคงที่ในอันดับที่ 5 คือ “We Live In Time” หนังฟอร์มเล็กจากค่าย A24 ที่ยังทำเงินเพิ่มไปได้อีก 4.8 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้
1. “Venom: The Last Dance,” $51 million.
2. “Smile 2,” $9.4 million.
3. “Conclave,” $6.5 million.
4. “The Wild Robot,” $6.5 million.
5. “We Live in Time,” $4.8 million.
6. “Terrifier 3,” $4.3 million.
7, “Beetlejuice Beetlejuice,” $3.2 million.
8. “Anora,” $867,142.
9. “Piece by Piece,” $720,000.
10. “Transformers One,” $720,000.
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น