รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส ประกาศมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาพลังงานสะอาดในแถบลุ่มน้ำโขง ก่อนจะเดินทางออกจากประเทศไทยในวันอาทิตย์เพื่อไปเยือนฟิลิปปินส์ต่อ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
หลังการปิดฉากการประชุมความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค แล้ว รองปธน.แฮร์ริส เข้าร่วมประชุมกับตัวแทนภาคประชาสังคมและผู้นำภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับในประเด็นปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนถ่ายสู่การใช้พลังงานสะอาด และกล่าวว่า “การดำเนินการแผนงานด้านสภาพภูมิอากาศอย่างอาจหาญนั้นไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเพื่อปกป้องผู้คนและทรัพยากรธรรมชาติบนโลกนี้ แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนที่มีอานุภาพสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย”
รองปธน.สหรัฐฯ ยังระบุในข่าวแถลงด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะของบประมาณ 20 ล้านเหรียญจากสภาคองเกรส โดยเพิ่มเติมจากเงินทุนในหุ้นส่วนด้านพลังงานแม่น้ำโขงระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ (Japan-U.S. Mekong Power Partnership) หรือ JUMPP ซึ่งสนับสนุนอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการแสวงหาความมั่นคงด้านพลังงาน และกล่าวด้วยว่า “เราต่างทราบกันดีว่า วิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศนั้นเป็นภัยคุกคามอันแท้จริงต่อชุมชนทั้งหลายที่พึ่งพาลุ่มน้ำโขง ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และลาว”
หลังจากนั้น รองปธน.แฮร์ริส เดินทางต่อไปยังประเทศฟิลิปปินส์เพื่อหารือกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ในประเด็นต่าง ๆ ที่มีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะเมื่อฟิลิปปินส์นั้นถือเป็นพันธมิตรในเอเชียที่มีบทบาทสำคัญต่อความพยายามของสหรัฐฯ ในการรับมือกับนโยบายเชิงรุกที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ของจีนต่อไต้หวัน
แหล่งข่าวภายในรัฐบาลสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาวมองว่า ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ หรือ บองบอง เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของนโยบายต่างประเทศของกรุงวอชิงตัน โดยเฉพาะเมื่อต้องมีการแข่งขันกับจีน
รองปธน.แฮร์ริส เป็นผู้แทนที่มีอาวุโสที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันที่มาเยือนฟิลิปปินส์ ซึ่งรายงานข่าวชี้ว่า เป็นความพยายามของกรุงวอชิงตันที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัฐบาลกรุงมะนิลา หลังอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แสดงจุดยืนไม่ชอบพอกับสหรัฐฯ และหันไปผูกสัมพันธ์กับกรุงปักกิ่งแทน
รายงานข่าวระบุว่า รองปธน.สหรัฐฯ และปธน.ฟิลิปปินส์น่าจะหยิบยกประเด็นไต้หวันและทะเลจีนใต้ขึ้นมาหารือ และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ และปธน.ไบเดน หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในระหว่างการประชุมตัวต่อตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย
นอกจากนั้น รองปธน.แฮร์ริส จะพบกับตัวแทนของหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ประจำเกาะพาลาวัน ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่สุดขอบชายแดนประเทศและติดกับทะเลจีนใต้ ซึ่งรายงานข่าวมองว่า เป็นความตั้งใจของสหรัฐฯ ที่จะส่งข้อความเชิงสัญลักษณ์ให้กับจีนซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนืออาณาเขตบางส่วนในท้องน้ำรอบเกาะพาลาวันอยู่
- ที่มา: รอยเตอร์
