สหรัฐฯ ประกาศในวันศุกร์ว่าจะบริจาควัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทเวชภัณฑ์ ไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 9.6 ล้านโดสให้กับปากีสถาน ผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มพันธมิตรวัคซีน Gavi และองค์การอนามัยโลก รวมทั้งพันธมิตรเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด (CEPI)
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงอิสลามาบัด กล่าวว่า ตัวเลขวัคซีนที่สหรัฐฯ ประกาศบริจาคเพิ่มนี้ ส่งผลให้จำนวนรวมที่ปากีสถานจะได้รับปรับขึ้นมาอยู่ทีกว่า 25 ล้านโดส ทันที โดย แอนเจลา แอกเกเลอร์ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต เปิดเผยว่า การบริจาควัคซีนเพิ่มเติมนี้จะนำส่งถึงปากีสถานทันเวลาที่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปจะได้รับยาเข็มแรกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ สถิติผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ตัวเลขเฉลี่ยไม่ถึง 1,000 รายต่อวัน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลกรุงอิสลามาบัดเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการจำกัดเกือบทั้งหมดที่บังคับใช้ในพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งสถานศึกษา และภาคธุรกิจทั่วประเทศนี้ที่มีประชากรราว 220 ล้านคน
ข้อมูลล่าสุดจากรัฐบาลปากีสถานแสดงให้เห็นว่า ตัวเลขสะสมของผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในประเทศนี้อยู่ที่ กว่า 1.26 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่มาอยู่ที่ 28,228 คน
ที่ผ่านมา ปากีสถานพึ่งพาวัคซีนจากจีนเป็นหลัก เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน แต่วัคซีนที่สหรัฐฯ บริจาคมาให้นั้นสามารถช่วยเจ้าหน้าที่แก้ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนต่อต้านไวรัสที่ผลิตโดยประเทศตะวันตกได้พอควร
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงอิสลามาบัด ระบุในคำแถลงว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่บริจาคเพิ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนจำนวน 500 ล้านโดสที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันสั่งซื้อในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เพื่อจัดส่งให้กับรัฐบาลใน 92 ประเทศ ซึ่งรวมถึง ปากีสถาน ตามคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะแจกจ่ายวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้กับคนทั่วโลก และช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ครั้งนี้
นอกเหนือจากวัคซีนแล้ว รัฐบาลกรุงวอชิงตันยังส่งมอบเงินช่วยเหลือเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 จำนวน 93 ล้านดอลลาร์ให้กับรัฐบาลกรุงอิสลามาบัดแล้วด้วย