รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ Chuck Hagel ระบุว่าเวลานี้กองทัพสหรัฐพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติตามทันทีที่ปธน.Barack Obama มีคำสั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อข้อกล่าวหาที่ว่า กองกำลังรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีในการสังหารประชาชนหลายร้อยคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริเวณชานกรุงดามัสคัส
เมื่อวันเสาร์ ปธน.Obama พบปะกับคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและยังได้พูดคุยกับนายกฯอังกฤษ David Cameron โดยแถลงการณ์จากกรุงลอนดอนระบุว่า ผู้นำสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันว่า ประชาคมโลกจะดำเนินมาตรการตอบโต้หากพบว่ามีการใช้อาวุธเคมีในสงครามซีเรียจริง
ในขณะเดียวกันทางสหประชาชาติยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่เชื่อว่ามีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีดังกล่าวได้แล้ว โดยทางรัฐบาลซีเรียกล่าวหาเช่นกันว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีนั้นในการโจมตีสังหารประชาชน แต่ทางฝ่ายต่อต้านโต้กลับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลซีเรียเองที่เป็นฝ่ายโกหกต่อทั่วโลกมาโดยตลอด
ทางด้านผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย นาย Ahmad al-Jarba แห่ง Syrian National Coalition ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐและ ปธน.Obama ต้องมีส่วนรับผิดชอบเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นผู้นำของประเทศที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในประชาคมโลก
และในขณะที่บรรดาประเทศตะวันตกกำลังรอคำยืนยันว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจริงหรือไม่ กลุ่ม Doctor Without Borders ซึ่งเป็นองค์กรด้านการแพทย์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร เชื่อว่าน่าจะมีการใช้แก้สพิษที่เป็นอันตรายต่อประสาทในแถบชานกรุงดามัสคัสจริง คุณ Meguerditch Terzian แห่งกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมากถูกนำตัวส่งรพ.ละแวกเดียวกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะถูกสารพิษซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบประสาท และยังมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ก็หมายความว่ามีการใช้อาวุธเคมีในพื้นที่บริเวณนั้นจริง
ผู้นำหลายประเทศต่างประณามการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย รวมทั้งอิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของซีเรีย เพียงแต่ระบุว่าฝ่ายที่ใช้อาวุธเคมีนั้นมิใช่ฝ่ายรัฐบาลซีเรีย แต่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพเรือสหรัฐได้เคลื่อนกำลังพลเข้าใกล้กับน่านน้ำของซีเรียแล้ว ซึ่งก็อาจตรงกับคำกล่าวของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐที่ว่ากองทัพสหรัฐพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติตามทันทีที่ปธน.Barack Obama มีคำสั่งออกมา
รายงานจาก Michael Bowmen / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
เมื่อวันเสาร์ ปธน.Obama พบปะกับคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและยังได้พูดคุยกับนายกฯอังกฤษ David Cameron โดยแถลงการณ์จากกรุงลอนดอนระบุว่า ผู้นำสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันว่า ประชาคมโลกจะดำเนินมาตรการตอบโต้หากพบว่ามีการใช้อาวุธเคมีในสงครามซีเรียจริง
ในขณะเดียวกันทางสหประชาชาติยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่เชื่อว่ามีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีดังกล่าวได้แล้ว โดยทางรัฐบาลซีเรียกล่าวหาเช่นกันว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีนั้นในการโจมตีสังหารประชาชน แต่ทางฝ่ายต่อต้านโต้กลับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลซีเรียเองที่เป็นฝ่ายโกหกต่อทั่วโลกมาโดยตลอด
ทางด้านผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย นาย Ahmad al-Jarba แห่ง Syrian National Coalition ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐและ ปธน.Obama ต้องมีส่วนรับผิดชอบเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นผู้นำของประเทศที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในประชาคมโลก
และในขณะที่บรรดาประเทศตะวันตกกำลังรอคำยืนยันว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจริงหรือไม่ กลุ่ม Doctor Without Borders ซึ่งเป็นองค์กรด้านการแพทย์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร เชื่อว่าน่าจะมีการใช้แก้สพิษที่เป็นอันตรายต่อประสาทในแถบชานกรุงดามัสคัสจริง คุณ Meguerditch Terzian แห่งกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมากถูกนำตัวส่งรพ.ละแวกเดียวกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะถูกสารพิษซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบประสาท และยังมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ก็หมายความว่ามีการใช้อาวุธเคมีในพื้นที่บริเวณนั้นจริง
ผู้นำหลายประเทศต่างประณามการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย รวมทั้งอิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของซีเรีย เพียงแต่ระบุว่าฝ่ายที่ใช้อาวุธเคมีนั้นมิใช่ฝ่ายรัฐบาลซีเรีย แต่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพเรือสหรัฐได้เคลื่อนกำลังพลเข้าใกล้กับน่านน้ำของซีเรียแล้ว ซึ่งก็อาจตรงกับคำกล่าวของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐที่ว่ากองทัพสหรัฐพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติตามทันทีที่ปธน.Barack Obama มีคำสั่งออกมา
รายงานจาก Michael Bowmen / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
